คสช. ยังคงเดินหน้าเสริมมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง หลังดำเนินมาตรการปราบปรามเร่งด่วนในห้วง 3 เดือน โดยเฉพาะการหยุดยาเสพติดไว้ที่ชายแดน
ล่าสุด ในวันนี้ (15 มกราคม 2562 ) ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อาวุธสงคราม สิ่งผิดกฎหมาย พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทขนส่ง/ผู้ประกอบการธุรกิจรับ-ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ชั้นนำ 15 บริษัท อาทิ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอสซีจี เอ็กซ์เพรส , บริษัท ไดนามิคโลจิสติกส์ , จำกัด บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด , บริษัท ลาล่ามูฟ ประเทศไทย บริษัท ทีเอ็นที เอ็กซ์เพรส เป็นต้น ร่วมประชุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจง สร้างความเข้าใจ และหารือกับผู้ประกอบการดังกล่าว ให้เกิดความร่วมมือในการป้องกันการลักลอบส่งสิ่งของผิดกฎหมายผ่านธุรกิจรับ-ส่งพัสดุภัณฑ์และระบบขนส่ง
ทั้งนี้ การให้ความสำคัญกับระบบการขนส่งสินค้าและพัสดุเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ คสช. จะนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนที่กำลังดำเนินการอยู่ โดย พลเอกอภิรัชต์ ฯ ระบุว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่บั่นทอนประเทศและเยาวชน เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่มอบให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเร่งปราบปรามในช่วง ๓ เดือนนี้ จนปรากฏผลการจับกุมยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันปัจจุบันระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) และระบบการจัดการส่งสินค้า (Logistics) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้ใช้บริการขนส่ง พัสดุภัณฑ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายโดยผ่านธุรกิจรับ-ส่งพัสดุภัณฑ์ จึงมีความจำเป็นที่ส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร่วมกันกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันมิให้มีการใช้ช่องทางดังกล่าวกระทำผิดกฎหมาย
การหารือในวันนี้ พลเอก อภิรัชต์ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้พิจารณาเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการรับ-ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณพื้นที่รับ-ส่ง การบันทึกข้อมูลบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการ การอำนวยความสะดวกให้มีการบรรจุหีบห่อ ณ จุดบริการ การใช้ระบบตรวจติดตามการให้บริการ หรือ Tracking System เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ พลเอก อภิรัชต์ ฯ ยังได้มอบหมายให้ กอ.รมน. ร่วมกับ ป.ป.ส. และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาจัดตั้ง ศูนย์รับแจ้งเรื่องตรวจพบการขนสิ่งผิดกฎหมายผ่านธุรกิจให้บริการรับ-ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบการตรวจสอบต่อไป และยังเป็นการป้องกันผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ของภาคเอกชนด้วย