“บิ๊กฉัตร” มอบ สทนช. ทบทวนรายละเอียดแผนงานพร้อมกรอบงบประมาณดำเนินการให้ชัดเจน หลังคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญเคาะ 4 โครงการใหญ่ ฟื้นคลองเปรม-พัฒนาบึงราชนก-บึงบอระเพ็ด-ป้องอุทกภัยเมืองชุมพร เพื่อเสนอ กนช. เห็นชอบ 11 มี.ค.นี้ ก่อนเข้า ครม.อนุมัติเปิดโครงการ
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ เพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนโครงการสำคัญตามนโยบาย สอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เป็นโครงการที่มีผลสัมฤทธิ์สูงสอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างเป็นระบบ (Area Based) รวมถึงมีผลการศึกษา ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมและมีความพร้อม และเป็นโครงการขนาดใหญ่วงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 4 โครงการ ได้แก่ 1. การฟื้นฟูคลองเปรมประชากร 2. การฟื้นฟูบึงราชนก จ.พิษณุโลก 3. การฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ 4. โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลักการทั้ง 4 โครงการ และจะเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ในวันที่ 11 มี.ค.นี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเปิดโครงการตามขั้นตอนต่อไป
ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนแม่บทการฟื้นฟูคลองเปรมประชากรทั้งระบบ โดยแผนงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาฟื้นฟูคลองเปรมประชากรและคลองเชื่อมต่อ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและปรับปรุงคุณภาพน้ำ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีแผนการดำเนินการ 4 แผนงานหลัก ได้แก่ 1.การปรับปรุงและฟื้นฟูสภาพคลองเปรมประชากรเพื่อการระบายและรักษาคุณภาพน้ำรวม 12 โครงการ อาทิ การขุดลอกคลองเปรมฯ ตั้งแต่คลองรังสิตฯ ถึงสถานีสูบน้ำเปรมเหนือบางปะอิน ปรับปรุงเขื่อนคลองบางซื่อจาก ถ.รัชดาภิเษกถึงแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นต้น 2.การพัฒนาระบบควบคุมน้ำในคลองเชื่อมโยง 14 โครงการ 3.ปรับปรุงพื้นที่แก้มลิง 5 โครงการ และ 4.การพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสีย 3 โครงการ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นโครงการที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนมีจำนวน 1 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ริมคลองเปรมประชากร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในคลองเปรมและคลองเชื่อมต่อ ป้องกันน้ำท่วม เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและปรับปรุงคุณภาพน้ำ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ สทนช.หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการทั้งระยะเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2562 แผนระยะกลางจนกระทั่งโครงการแล้วเสร็จให้ชัดเจน เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาฟื้นฟูคลองเปรมประชากรเป็นไปตามแผนแม่บทการฟื้นฟูคลองเปรมประชากรทั้งระบบ
สำหรับอีก 2 โครงการ คือ การพัฒนาฟื้นฟูบึงราชกนก จ.พิษณุโลก และบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ตามที่ได้ กนช.มอบหมายให้ สทนช.เป็นเจ้าภาพหลักดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำ และรองรับน้ำในช่วงน้ำหลาก ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาและฟื้นฟูบึงราชนก และบึงบอระเพ็ด รวมถึงเห็นชอบในหลักการแผนงานเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการได้ทันที ตามที่ สทนช.เสนอ โดยให้นำข้อเสนอจากที่ประชุมไปปรับปรุงทบทวนรายละเอียดการดำเนินงาน แผนงาน กรอบวงเงินงบประมาณ และหน่วยงานรับผิดชอบให้ชัดเจนก่อนเสนอเข้าที่ประชุม กนช.พิจารณาต่อไป
และโครงการที่ 4 คือ โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร โดยขุดคลองผันน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร ประกอบด้วย 1.การก่อสร้างระบบระบายคลองชุมพรทั้งระบบระยะที่ 2 เพื่อดำเนินการต่อเนื่องในปี’62 – 65 และ 2.การปรับปรุงประสิทธิภาพการระบบระบายน้ำคลองท่าตะเภา ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จสามารถบรรเทาอุทกภัยในเขตพื้นที่ชุมชนตอนล่างของอำเภอเมือง จังหวัดชุมพร พื้นที่น้ำท่วม ประมาณ 37,500 ไร่ ราษฎร 16,802 ครัวเรือน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนสายเอเชีย 41 ลดปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำคลองชุมพรได้อย่างยั่งยืนและเป็นแหล่งน้ำสำรองในฤดูแล้ง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการอีกด้วย