กระทรวงดิจิทัลฯ เร่งลงทุนเคเบิ้ลใต้น้ำไทย-จีน วงเงิน 2 พันล้านบาท สั่งสรุปแนวทางลงทุนจาก 2 แนวทาง พร้อมเสนอ คนร.เคาะแผนลงทุนเดือน มี.ค.นี้
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการสร้างเคเบิ้ลใต้น้ำเชื่อมต่อระหว่างไทยกับจีนที่ได้รับการอนุมัติวงเงินลงทุนจากรัฐบาลปี 2560 ว่า มอบหมายให้ พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ทำรายละเอียดขั้นสุดท้ายและเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ภายในเดือน มี.ค.นี้
นายพิเชฐ กล่าวว่า โครงการนี้เหลือการพิจารณา 2 แนวทาง คือ การลงทุนร่วมกันระหว่าง กสท และ China Telecom Corp. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน และอีกแนวทางเป็นการลงทุนหลายประเทศในลักษณะกิจการร่วมค้า ซึ่งจะเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่าง กสท China Telecom และ China Unicom ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ในฮ่องกง
รวมทั้งจะมีประเทศอื่นที่เคเบิ้ลใต้น้ำพาดผ่านเข้ามาร่วมลงทุนเพิ่มเติม เช่น สิงคโปร์ และอินโดนิเซีย โดยจะประเมินถึงผลประโยชน์ในระยะยาวจากการลงทุน ทั้งนี้การลงทุนโครงการนี้ใช้วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท
“ต้องรีบตัดสินใจว่าจะลงทุนในแนวทางใดคิดว่าไม่น่าจะเกินเดือน มี.ค.นี้ เพราะกว่าจะมีการลงทุนแล้วเสร็จต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีเนื่องจากเป็นการเดินสายเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำ ส่วนจะอนุมัติได้ก่อนเลือกตั้งหรือไม่ เรื่องนี้คงตอบไม่ได้อยู่ที่ไทยฝ่ายเดียวต้องอยู่ที่ฝ่ายจีนด้วยว่าเส้นทางที่เราต้องการทางนั้นต้องการเหมือนกันหรือไม่”นายพิเชฐกล่าว
รายงานข่าวระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้กระทรวงดิจิทัลฯ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศวงเงินลงทุน 20,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1.โครงการในประเทศ 2.โครงการะหว่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมโครงการอาเซียนดิจิทัลฮับ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะจัดหาอุปกรณ์เพิ่มความจุโครงข่ายเชื่อมเชื่อมโยงไปยังชายแดนเชื่อมต่อกับกัมพูชา ลาวและเมียนมา และจัดหาอุปกรณ์เพิ่มความจุโครงข่ายเชื่อมโยงไปยังสถานีเคเบิ้ลใต้น้ำ จ.ชลบุรี เพชรบุรี สงขลา สตูล กับศูนย์โทรคมนาคมของ กสท