พ้นจากตำแหน่ง เหตุบริหารงานไม่โปร่งใส หลายโครงการในหมู่บ้านโดยไม่มีการชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ชาวบ้านหมู่ 19 บ้านหนองแสง ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ มีตัวแทนชาวบ้านกว่า 20 คนร่วมกันชูป้ายแสดงข้อความขับไล่ นายสมศักดิ์ นิลฉวี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 19 หลังต้องทนอยู่กับการบริหารงานของนายสมศักดิ์ต่อไปไม่ไหว เนื่องจากตลอดระยะเวลาร่วม 3 ปีกว่าที่นายสมศักดิ์เข้ามาเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่เคยใส่ใจชาวบ้าน บริหารงานไม่โปร่งใส ไม่เคยชี้แจงเรื่องรายรับรายจ่ายในโครงการต่างๆ ที่ผ่านมา จนชาวบ้านไม่ทนกับพฤติกรรมดังกล่าวได้ จึงรวมตัวกันลงรายมือชื่อ จำนวน 99 รายชื่อ เพื่อพิจารณาดำเนินการถอดถอน นายสมศักดิ์ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 19 บ้านหนองแสง ต.ชุมพลบุรี เสนอต่อนายอำเภอชุมพลบุรี
โดยเนื้อหาในหนังสือยื่นถอดถอนระบุ ประเด็นสำคัญๆ ประกอบด้วย 1. เรื่องโรงสีข้าวหมู่บ้าน ที่มีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแลบริหารเองมาตลอด 3 ปีกว่า ไม่เคยมีการชี้แจงรายรับรายจ่ายให้ชาวบ้านได้ทราบถึงผลกำไร 2. โครงการ SML ที่ได้ซื้อชุดเครื่องเสียง โต๊ะจีน และเต็นท์ ซึ่งมีชาวบ้านมาขอเช่าไปใช้บ่อยครั้ง ก็ไม่มีการแจงรายรับรายจ่ายว่ามีเท่าไหร่ 3. เรื่องซองกฐินที่ผู้ใหญ่รับซองมาแล้ว แต่กลับไม่นำเงินมาเข้าบัญชีกลาง พอชาวบ้านให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปทวงถามก็บอกให้ผู้ช่วยพิจราณาตัวเอง และ 4. เรื่องสูบน้ำหนองสาธารณะเพื่อทำการเกษตรไร่ละ 50 บาท มีคนจ่ายเงินมาแล้ว ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ชี้แจงกับชาวบ้านด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกโครงการมีผู้ใหญ่บ้านบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว และไม่เคยมาชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบในเรื่องรายรับรายจ่ายตลอดระยะเวลาที่เข้าดำรงตำแหน่ง 3 ปีกว่า ทั้งนี้ หากทางอำเภอไม่มีการดำเนินการและไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านจะเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือต่อทางจังหวัดสุรินทร์ต่อไป
นางบัวไข อันทบาล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองแสง กล่าวว่า ผู้ใหญ่บ้านทำงานไม่โปร่งใสเกี่ยวกับเรื่องเงิน หลายโครงการไม่มีการชี้แจง เพราะผู้ใหญ่บ้านเป็นคนจัดการเองทั้งหมด โครงการ SML ไม่ชี้แจงมา 3 ปีแล้ว โรงสีข้าวชุมชนผู้ใหญ่บ้านก็ทำเองขายเอง คณะกรรมการมีแต่ไม่มีใครได้เห็นบัญชีหรือเห็นเงินเลย โต๊ะ เต็นท์ เครื่องเสียง ที่ชาวบ้านเช่าไปก็ไม่รู้ว่าเงินไปอยู่ตรงไหน ได้เท่าไหร่แล้วตอนนี้ หลายๆ เรื่องชาวบ้านสุดที่จะทน จึงอยากให้ทางอำเภอถอดถอนผู้ใหญ่บ้านให้พ้นจากตำแหน่งด้วย หากทางอำเภอดำเนินการให้ไม่ได้จะเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือต่อทางผู้ว่าฯสุรินทร์
นอกจากนี้ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากบ้านตอกแป้น ม.9 ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ประมาณ 100 คน ได้รวมยื่นหนังสื่อต่อนายปิยิน ตลับนาค นายอำเภอเมืองขอนแก่น ตรวจสอบพฤติกรรมการบริหารงานของผู้ใหญ่บ้าน โดยชาวบ้านจำนวนมากได้มีการลงลายมือชื่อเพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงรวมไปถึงการปลดออกจากตำแหน่งนายสมัย พุทธสอน ผู้ใหญ่บ้าน
นายจรัสรวี พุธสอน กล่าวว่า การออกมาร่วมตัวขับไล่ผู้ใหญ่บ้านดังกล่าวนี้ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทางการเมืองทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ โดยมีการขออนุญาตชุมชนจากหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างถูกต้อง และมีการจัดทำป้ายข้อความเพื่อแสดงถึงการขับไล่ผู้ใหญ่บ้านดังกล่าวอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและสิทธิอันพึงกระทำได้ของการเป็นประชาชนคนไทยที่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายทั้งนี้ ยืนยันว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจริงจากการบริหารงานของนายสมัย ผู้ใหญ่บ้านที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตและไม่มีความยุติธรรม โดยเฉพาะใน 2 ประเด็น ประกอบด้วยการยุยงให้ชาวบ้านแตกแยกขาดความสามัคคีภายในชุมชน-หมู่บ้าน ว่า ด้วยเรื่องของศาสนา และการประพฤติมิชอบหาประโยชน์ให้กับคนในครอบครัวและพวกพ้อง โดยเฉพาะบรรดาเครือญาติที่ไม่มีการแจกแจงรายละเอียดรายรับ-รายจ่ายให้ชาวบ้านได้รับทราบในเรื่องของเงินกองทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินกองทุนหมู่บ้าน เงินประปาหมู่บ้าน เงินอุดหนุนคณะกรรมการหมู่บ้านตามโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเพื่อพัฒนาท้องถิ่น
นายปิยิน ตลับนาค นายอำเภอเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ประเด็นความเดือดร้อนของชาวบ้านในทุกเรื่องเป็นสิ่งที่ทางอำเภอจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน จากการรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวนั้นได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีการสอบปากคำชาวบ้านในทุกข้อร้องเรียนเพื่อแบ่งแยกเป็นรายประเด็นก่อนที่จะให้ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหามาชี้แจงให้กับทางคณะกรรมการสอบสนและทางอำเภอได้รับทราบ ขณะนี้เอกสารหลักฐานที่ชาวบ้านได้ส่งมานั้นได้ถูกจัดเก็บโดยคณะกรมการสอบวนแล้วทั้งหมด ซึ่งจะต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังคงยืนยันในการดำเนินงานที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะหากมีการกระทำผิดจริงก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย