นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการคัดเลือกสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2562 ซึ่งจะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัล เนื่องในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ พลับพลาที่ประทับ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 นี้ มีจำนวน 7 สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรคณฑีพัฒนา จำกัด จังหวัดกำแพงเพชร สหกรณ์โคนมนครปฐม จำกัด จังหวัดนครปฐม สหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด จังหวัดระยอง สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลพัทลุง จำกัด จังหวัดพัทลุง ร้านสหกรณ์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จำกัด จังหวัดนครราชสีมา สหกรณ์เดินรถแม่สอด จำกัด จังหวัดตาก และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนโพธิ์ลอยพัฒนา จำกัด จังหวัดเพชรบุรี ส่วนกลุ่มเกษตรกรดีเด่นระดับชาติมี 2 แห่ง ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรทำนาเทพนคร จังหวัดกำแพงเพชรและกลุ่มเกษตรกรทำสวนบ้านนาปรังพัฒนา จำกัด จังหวัดสงขลา
ทั้งนี้ การพิจารณาคัดเลือกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก สหกรณ์ดีเด่นตั้งแต่ระดับจังหวัด เพื่อส่งมาประกวดในระดับภาค ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาคัดเลือกสหกรณ์ดีเด่นระดับประเทศ ซึ่งจะมีคณะกรรมการลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อมูลและโครงการต่าง ๆ ที่สหกรณ์ดำเนินการ และมีเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน แบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้ 1.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 2.ความสามารถในการบริหารและการจัดการสหกรณ์ 3.บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสหกรณ์ 4.ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสหกรณ์ และ5.การทำกิจกรรม ด้านสาธารณประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
สหกรณ์ดีเด่นทั้ง 7 แห่งและกลุ่มเกษตรกรดีเด่นระดับชาติ 2 แห่งนี้ จะได้รับการประกาศเกียรติคุณและเผยแพร่ ผลการดำเนินงานที่ประสบผลสำเร็จและได้รับคัดเลือกเป็นสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ เพื่อเป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ให้กับสหกรณ์อื่น ๆ และประชาชนทั่วไปได้มาเรียนรู้และศึกษาดูงาน และนำแนวคิดจากการดำเนินโครงการที่ประสบผลสำเร็จของแต่ละสหกรณ์ไปปรับใช้ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ยังคงมุ่งสนับสนุนการดำเนินงานและสร้างความเข้มแข็งสหกรณ์ 3 ด้าน ได้แก่
1.การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์ โดยยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิก 2.การพัฒนาธุรกิจของสหกรณ์ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสมาชิก ผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาด และดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน 3.การพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ ให้มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองที่มีต่อสหกรณ์ และแสวงหาองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์และสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมกิจการสหกรณ์ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น