ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 62 ที่ผ่านมา ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดบ้านพักรับรองสี่เสาเทเวศร์ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมว.ศึกษาธิการ และพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
และในส่วนของกองทัพ ประกอบด้วย พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยศริน ผู้บัญชาการทหาอากาศ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารดน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2562 เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตและการทำงานต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสอันเป็นมงคลอีกครั้งหนึ่ง ที่พวกเรามาร่วมกันในวันสำคัญคือวันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย ที่ใกล้จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ทุกครั้งที่ได้มาที่นี้ พวกเรารู้สึกอบอุ่นใจ มีความสุข มีความยินดีที่ได้พบประธานองคมนตรี ที่ยังมีสุขภาพแข็งแรงและสามารถพูดคุยให้คำปรึกษากับพวกเราได้ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งสำคัญที่เรามีความผูกพันระหว่างกันมีมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ ก็ด้วยการศึกษาในโรงเรียนทหารมาด้วยกัน ทั้ง ตำรวจ ทหาร ที่ได้รับการสั่งสอนอบรมในเรื่องของระเบียบวินัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความศรัทธาต่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงความจงรักภักดี ได้ปลูกฝังในตัวพวกเราจนถึงทุกวันนี้ไม่มีวันที่จะเสื่อมคลายไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ท่านประธานองคมนตรี ได้สั่งสอนเพิ่มเติมกำหนดรูปแบบในการดำเนินการดำรงชีวิตในระหว่างการรับราชการทหารจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าตนที่เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้หลายคนไม่เข้าใจความผูกพันเหล่านี้ ความที่เราเป็นทหารหรือข้าราชการ เราได้รับการสอนสั่งมาว่า ต้องทำเพื่อคนอื่นเสมอมา ให้นึกถึงตัวเองเป็นอันดับ 2 เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้คือ เราต้องดำรงรักษาสิ่งเหล่านี้ได้ คือเราเกิดมาเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินและทำงานเพื่อคนอื่นตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ เราควรจะต้องทำอะไรให้เกิดประโยชน์ให้แผ่นดินผืนนี้ ที่เราเจริญเติบโตขึ้นมา เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ ท่านประธานองค์คมนตรีได้สั่งสอนพวกเราเสมอมา และเน้นย้ำถึงความสำคัญสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้อยู่กับพวกเราทุกคนไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้น เราก็ยังคงยึดมั่นในแบบเรียนทหารวัฒนธรรม การบริหารงานของเรา ปรับให้สอดคล้องกับการทำงานในแต่ละมิติ
"วันนี้ผมพยายามปรับทุกๆ อย่างให้สอดคล้อง นำสิ่งที่เราทำในอดีตมาประยุกต์ มาทำให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนของเรา เนื่องในโอกาสอันเป็นมงคลครั้งนี้ กระผมในนามของทุกคนที่มาและไม่ได้มาร่วมในวันนี้ ขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย เดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ขอให้โปรดดลบันดาลประทานพรประธานองคมนตรีจงมีความสุขสุขภาพแข็งแรงมีกำลังกายกำลังใจเข้มแข็งเช่นเดิมตลอดไปและขอกราบขอพรเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์วันปีใหม่ไทย" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ต่อจากนั้น พล.อ.เปรม ได้กล่าวให้พรว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีเพื่อนรักของตน พวกเรามีความยินดีที่ได้เห็นน ยกฯ กองทัพกับข้าราชการหน่วยต่างๆ ช่วยดูแลชาติบ้านเมืองจนกระทั่งมาจนถึงทุกวันนี้ พูดได้เต็มปากว่า รัฐบาลของนายกฯอโกง เพราะเป็นคนที่เห็นแก่ส่วนรวมจริงๆ คนที่จะซื่อสัตย์สุจริตต้องเป็นคนที่มีความคิดกว้างไกล ทำเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ทำเพื่อตนเองหรือปกป้องพี่น้องที่อยู่ใกล้ชิด เพราะฉะนั้น ที่ตนพูดเสมอว่า รัฐบาลนี้เก่งไม่เก่งก็ดูเอาเองก็แล้วกัน บอกได้เลยว่า รัฐบาลนี้ไม่โกง ยืดอกพูดได้เลยว่า รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่โกง แต่ถ้าตนพูดผิดนายกฯ ก็ต้องไปจัดการ
พล.อ.เปรม กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ยังระลึกถึงกันโดยตลอด ตนเคยบอกกับพวกเราว่า การรักษาประเพณีวัฒนธรรมของชาติบ้านเมืองของเรา ก็คือการรักษาชาติ ขอฝากนายกฯไปอีกครั้งว่า การรักษาวัฒนธรรมประเพณี ก็คือการรักษาชาติ พวกเราก็อายุมากแล้ว เพราะฉะนั้น สิ่งที่ตนจะให้พรหรือร่วมกันอธิษฐานขอให้นายกฯ และเพื่อนๆ ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจงมีร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพใจที่มุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อคนอื่นให้สำเร็จผล เป็นที่ชมเชยหรืออย่างน้อยถูกตำหนิให้น้อย ขอให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแก่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้ คนไทยที่นายกฯ ดูแลอยู่ ขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครองนายกฯ และพวกเราทุกคน
ขอให้พระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นเกราะกำบังให้เราได้ทำแต่ความดีเพื่อชาติบ้านเมืองของเรา ขอให้ทุกคนมีแต่ความดีในตัว และนำความดีในตัวของเรามาสร้างเป็นประโยชน์ต่อประชาชน 70 ล้านคน และดูแลชาติบ้านเมืองด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ชาติบ้านเมืองของเราก้าวไปข้างหน้าโดยฝีมือของพวกเราช่วยกันคนละไม้ละมือ ขอขอบคุณนายกฯ อีกครั้ง ตนจะจำความเป็นเพื่อนไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ขอบคุณมาก
ทั้งนี้ พล.อ.เปรม ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร ว่า "ได้ข่าวว่าวันนี้ป้อมจะไม่มา เห็นว่าไม่สบาย มือเป็นอะไร" โดย พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยกมือผ้าก๊อตสีขาวให้ดู
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายกรัฐมนตรีถึงอาการของ พล.อ.ประวิตร โดยนายกรัฐมนตรี ตอบว่า พล.อ.ประวิตรไม่สบาย ให้น้ำเกลือมา ไม่เคยเห็นหรืออย่างไร
หลังจากนั้น พล.อ.เปรม ได้เดินทักทายคณะรัฐมนตรีและผบ.เหล่าทัพ ซึ่งในระหว่างทาง นายกรัฐมนตรีได้บ่นถึงอาการเจ็บตาว่า ยังปวดอยู่ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น สำหรับ พล.อ.ประวิตร แม้จะอาการดีขึ้นจากการท้องเสีย แต่ก็สีหน้าแจ่ม หัวเราะอย่างอารมณ์ แต่ไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามถึงอาการเจ็บป่วย
สำหรับ พล.ต.อ.จักรทิพย์นั้น พล.อ.เปรมได้เดินเข้ามาพูดคุยว่า "คนนี้ชื่อเสียงดี" และในระหว่างที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก รดน้ำขอพร พล.อ.เปรม นั้น พล.อ.เปรม ได้พูดคุยกับ พล.อ.อภิรัชต์ ว่า "เรื่องเครื่องเสียงวิจารณ์ไม่ต้องไปสนใจ ให้ทำงานไป"