การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เผยตัวเลขแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนร้อยละ 4 มั่นใจพร้อมดูแลระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าในเขตพื้นที่ให้บริการของ กฟน. อย่างมั่นคงในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเป็นประจำทุกปี พร้อมแนะเคล็ดลับ “ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน” ลดการใช้ไฟฟ้า ประหยัดพลังงานในช่วงฤดูร้อน
วันนี้ (10 เมษายน 2562) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศว่าปีนี้ ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2562 โดยคาดว่าในปีนี้จะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยในพื้นที่จำหน่ายของ กฟน. พบว่า ในช่วงดังกล่าวของปี 2562 มีสถิติแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณร้อยละ 4 โดยขยายตัวในกลุ่มบ้านอยู่อาศัย ธุรกิจ และหน่วยงานราชการ โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ณ ตอนนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 เมื่อเวลา 14.00-14.30 น. ที่ 8,788.90 MW โดยในปีนี้ กฟน. คาดการณ์ว่าค่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดจะอยู่ที่ 9,191 MW ในขณะที่ค่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของ กฟน. ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2559 อยู่ที่ 9,296.57 MW
ผู้ช่วยผู้ว่าการ กฟน. กล่าวต่อไปว่า แม้ในช่วงฤดูร้อนจะมีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าและสถิติแนวโน้มการใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ กฟน. ได้มีการจัดเตรียมแผนงานปรับปรุงเฉพาะสำหรับรองรับการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนของปีนี้ ซึ่งได้เตรียมแผนการไว้ตั้งแต่ปี 2561 และดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงานทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยโดยใช้เทคโนโลยีควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA และ ระบบ DMS ในการควบคุมแรงดันและการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้เกิดความปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังมีระบบการทำงานภาคสนาม ที่เน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ หรือ ที่เรียกว่า FFM โดยใช้ MEA Smart Life Application ที่สามารถถ่ายภาพ แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้ทันที ทำให้ระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของ กฟน. เป็นไปอย่างมั่นคงตลอดฤดูร้อนปี 2562
นอกจากนี้ ผู้ช่วยผู้ว่าการ กฟน. ยังได้เผยเคล็ดลับการประหยัดไฟฟ้า เนื่องจากในช่วงฤดูร้อน ถือเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้น เป็นเหตุให้เสียค่าไฟมากขึ้น วิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย นอกจากการหมั่นดูแล บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี โดยยึดหลัก “ปิด - ปรับ - ปลด - เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26 องศาเซลเซียส ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง และหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม ไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็น ตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ใช้หลอดไฟ LED แทนการใช้หลอดแบบไส้ เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5) และควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมทั้งติดตั้งสายดิน พร้อมเครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า