ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
นักศึกษาม.หอการค้าไทยไอเดียเจ๋ง ชนะเลิศนวัตกรรมมุ้งนาโนไนลอนหน้ากากกันฝุ่น PM 2.5
11 เม.ย. 2562

               เมื่อเร็วๆนี้เวทีการแข่งขัน HK Innovation Challenge @UTCC 2019 ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้จัดการแข่งขันชิงทุนทางการศึกษากว่า 100,000 บาท เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดกระบวนการคิดและวิจัยโครงการสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1-2 ทุกคนของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมุ่งหวังที่จะสร้างแนวคิด (Mindset) ทางผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมให้แก่นักศึกษาเพื่อนำไปต่อยอดในการเรียน ทำธุรกิจหรือสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเหลือรับผิดชอบต่อสังคมในระดับต่างๆ เพื่อให้นักศึกษาได้มีการลงมือทำจริง ซึ่งนักศึกษาจะต้องคิดหาไอเดียทางธุรกิจจากการค้นหาปัญหาจากพื้นที่ในเขตห้วยขวางและดินแดง และคิดหาแนวทางการแก้ไขปัญหาหรือเข้าใจถึงผู้ที่ได้รับปัญหาซึ่งจะเป็นลูกค้าของธุรกิจในอนาคต ตั้งแต่การทำการสอบถามลูกค้า กระทั่งสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการขึ้นมา

                  ทีม โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศประเภท “Winner Best Innovation”และรางวัล “Popular Vote” ประกอบด้วย นางสาวพิมลรัตน์ สินประเสริฐสุข (ฟรองซ์) คณะบัญชี ชั้นปีที่ 2 ,นางสาววิสุทธินันท์ สมบูรณ์พร้อม (ไข่มุก) คณะบัญชี ชั้นปีที่ 2,นางสาวอรทิพย์ กีรติอรัญกุล (ปอนด์)  คณะบัญชี ชั้นปีที่ 2,นางสาวนนทรัตน์ สีจันทร์สุก (ออม) คณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 และนางสาวจารุพร จิตตะบุตร (เอิร์น) คณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คิดค้นผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัย “นาโนมาร์ค” ทำจากมุ้งนาโนไนลอนที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาจากทีมวิจัยนำโดยนาย อี้ว์ ซูหง อาจารย์จาก มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน (USTC) เมืองเหอเฝย มณฑลอันฮุย ทางจีนตอนกลาง สามารถกันฝุ่น PM2.5 ได้ 99.65%

ต้นแบบ (Prototype)หน้ากากอนามัย นาโนมาร์ค” ทำจากมุ้งนาโนไนลอน

                นางสาวพิมลรัตน์ สินประเสริฐสุข (น้องฟรองซ์) คณะบัญชี ชั้นปีที่2 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทีม โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย ทีมชนะเลิศประเภท “Winner Best Innovation”และรางวัล “Popular Vote” เล่าว่า “ จุดเริ่มต้นตอนแรกที่ทางอาจารย์ให้คิดปัญหาทีมเราก็เลยคิดเริ่มจากปัญหาที่เกิดจากตัวเราเองก่อน คือเวลาใส่หน้ากากอนามัยแล้วมันชอบหายใจไม่สะดวก เลอะเครื่องสำอาง ทีมเราก็เลยออกไปสอบถามคนข้างนอกว่าเป็นเหมือนกันไหมแต่ผลตอบรับที่เราได้มานั้นมันไม่ใช่แค่เลอะเครื่องสำอางเพียงอย่างเดียวแต่มันยังทำให้รู้สึกหายใจลำบาก ใส่แล้วเลอะง่าย รวมถึงหน้ากาที่สามารถกันฝุ่น PM2.5 ได้นั้นก็มีราคาสูงอันนี้ก็เป็นปัญหาทั้งหมดที่พวกเขาเจอเราก็เลยอยากที่จะแก้ไขปัญหานี้ก็เลยเลือกที่จะสร้างผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัย “นาโนมาร์ค” ทำจากมุ้งนาโนไนลอนขึ้นมา โดยตัววัสดุมาจากมุ่งลวดของประเทศจีนที่เรียกว่ามุ้งนาโนไนลอนที่ผ่านการวิจัยมาแล้วว่าสามารถกันฝุ่น PM2.5 ได้ 99.65% ซึ่งมีแค่ประเทศจีนเท่านั้นที่ผลิตได้ในตอนนี้ ราคาถ้าคิดเป็นเงินบาทจะอยู่ที่ 480บาท/7.5 ตารางเมตร เราก็เลยเอาคุณสมบัติของมุ้งลวดนี้มาประดิษฐ์เป็นหน้ากากอนามัย ความแตกต่างจากหน้ากากอนามัยตามท้องตลาดทั่วไปของท้องตลาดที่ใช้กันอยู่ จะใช้เป็นเส้นใยที่ผ่านการทอมาอย่างละเอียด แต่ความละเอียดของเส้นใยที่ทอมานั้นถึงแม้มันจะช่วยกันฝุ่นที่มีขนาดเล็กได้ แต่ยังทำให้เราหายใจลำบากมากขึ้น ทีมเราก็เลยคิดว่าถ้าเราทำหน้ากากที่เป็นตัวมุ้งลวดออกมานอกจากจะช่วยในเรื่องของการกันฝุ่นแล้วยังทำให้หายใจได้สะดวกสบายมากขึ้นเราก็น่าจะนำนวัตกรรมตรงนี้มาพัฒนาให้เกิดขึ้น” 

            นางสาววิสุทธินันท์ สมบูรณ์พร้อม (น้องไข่มุก) คณะบัญชี ชั้นปีที่ 2,นางสาวอรทิพย์ กีรติอรัญกุล (น้องปอนด์)  คณะบัญชี ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทีม โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย กล่าวว่า “จากที่เราไปสัมภาษณ์เก็บข้อมูลผู้ที่ประสบปัญหาเมื่อเราได้นำผลิตภัณฑ์ต้นแบบของเราไปให้ทดลองใช้ผลตอบรับที่ได้ คือ ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น ใส่แล้วไม่ร้อนอึดอัดเพราะตัวหน้ากากมีความโปร่ง ส่วนเรื่องที่เลอะเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิงนั้นถึงแม้จะเลอะก็สามารถใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดได้ อีกทั้งในเรื่องของราคานั้นมีราคาที่ถูกมากเพราะเราตั้งราคาต่อชิ้นไว้ที่ 200 บาท และแต่ละชิ้นนั้นอายุการใช้งานสามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี เฉลี่ยการใช้งานต่อวันไม่ถึง 1 บาท โดยแผนในอนาคตทีมเราอยากจะสั่งมุ้งนี้จากประเทศจีนมาใช้ในการทดลองทำแบบจริงจัง โดยอาจร่วมพัฒนากับคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยว่าสามารถพัฒนาต่อยอดอะไรได้บ้างจากมุ้งตัวนี้ เพราะตัวผลิตภัณฑ์ต้นแบบค่อนข้างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังต้องทดลองว่ามีความเป็นไปได้มากแค่ไหนเพราะต้องใช้ร่วมกับกระแสไฟฟ้าที่ใช้จริงๆ จะอยู่แค่ประมาณ 10 โวลต์ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อคนแน่นอน แต่ถ้าเราไม่ใส่กระแสไฟฟ้าเข้าไปในหน้ากากนี้มันก็จะเหมือนเป็นแค่มุ้งลวดปกติธรรมดา”

            “รู้สึกดีใจเพราะว่าตลอดเวลาที่เราเรียนมาเราต้องลงพื้นที่เยอะมาก เราต้องทำซ้ำทำหลายรอบมากพอเราได้รางวัลมาก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับความตั้งใจที่เราเหนื่อย การที่เราได้มาทำอะไรแบบนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่อีกขั้นหนึ่ง เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราต้องมานำเสนอให้คนเป็นพันๆ คนฟัง หรือว่าต้องมานำเสนอให้ผู้บริหารระดับสูงๆ ฟัง ยิ่งเรานำเสนอไปเรื่อยๆ เราก็รู้สึกว่าความคิดทางนวัตกรรมของเรานี้มันสามารถเกิดขึ้นจริงได้ก็เลยคิดว่าที่เราได้รางวัลมามันอาจจะเป็นใบเบิกทางที่ทำให้เราเป็นผู้ประกอบการจริงๆ ก็เป็นได้ ที่สำคัญยังสามารถช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมได้อีกด้วย” ทีม โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย กล่าวทิ้งท้าย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...