นายราเมศ รัตนะเชวง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะโจมตีพรรคประชาธิปัตย์เป็นรายวันว่า จะขอชี้แจงด้วยถ้อยคำสุภาพ ด้วยเหตุด้วยผล จะไม่ใช่คำว่าสันดานเหมือนที่คุณชูวิทย์ใช้ตามนิสัยใจคอที่มีติดตัวคุณชูวิทย์มา การวิพากษ์วิจารณ์พรรคสามารถทำได้แต่ต้องมีเหตุมีผล จะต้องไม่บิดเบือนความจริง
พรรคประชาธิปัตย์เปรียบเสมือนบ้านผมเมื่อถูกใส่ร้ายผมก็ต้องออกมาชี้แจง และเชื่อว่าถ้ามีคนด่าคนที่อยู่ในบ้าน คุณชูวิทย์ก็ต้องออกมาปกป้องเช่นกันและต้องบอกว่าที่ผมออกมาปกป้องไม่ใช่มีเวลาว่าง เพราะประชาชนที่เดินทางมาขอความช่วยเหลือในทุกวันที่พรรคมีมากเกินกว่าที่คุณชูวิทย์จะรู้ได้ ผมจะไม่ด่าคุณชูวิทย์และจะไม่ชมพรรคของผมเองแต่จะพูดความจริงเพียงเท่านั้น ที่คุณชูวิทย์ด่าโดยใช้คำว่าสันดานประชาธิปัตย์ คำพูดนี้ถึงแม้ว่าเป็นคำที่บอกนิสัยคุณชูวิทย์มากที่สุดก็ไม่ควรใช้ ผมรุ่นลูกคุณชูวิทย์ไม่กล้าสอนเพียงแต่อยากขอให้เลิกใช้คำหยาบเพราะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ลูกหลานได้ พอใช้คำแบบนี้ประชาชนจะนึกถึงภาพเก่า ๆ ของคุณชูวิทย์ทันที
พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองคือความจริง เพราะพรรคที่ไม่เป็นสถาบันทางการเมืองตั้งมาเฉพาะกิจก็จะล้มหายตายจากไปจากการเมืองไทย คุณชูวิทย์ทราบดีเพราะเคยตั้งพรรคการเมืองพรรคเราประชาชนติติงได้ พร้อมรับฟังทุกความเห็นแต่ประชาชนไม่ได้พูดแบบนิสัยคุณชูวิทย์ พรรคและคนในพรรคไม่เคยคิดว่าสูงส่งกว่าคนอื่น แต่เราไม่คิดที่จะดูถูกคนอื่นด้วยวิธีการแบบที่คุณชูวิทย์ทำ การแพ้เลือกตั้งไม่ได้เป็นอุปสรรคในการนำพาพรรคเพื่อก้าวไปข้างหน้า เพื่อประชาชน เพื่อประเทศ พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันอยู่ในสถานะใดในทางการเมืองก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนได้ พร้อมเป็นได้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน และพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วแม้ว่าจะไม่มีสภาไม่มีตำแหน่งใด แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยหยุดทำงานที่ทำการพรรคไม่เคยปิดทำการแม้แต่วันเดียวเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน
คนที่เป็นอดีต สส. อดีตนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคได้พบปะประชาชนมาตลอดเวลาแต่ที่ผ่านมาคุณชูวิทย์อยู่ไหนทำอะไรบ้างประชาชนอยากรู้เช่นกันที่บอกว่าพรรคยกหางตัวเอง ทั้งที่คะแนนก็เห็นกันอยู่ว่าต่ำเตี้ยเรี่ยดินนั้น ผมต้องบอกว่าอย่ามาดูถูกกันในทางการเมือง คะแนนต่ำไม่เป็นไรแต่จิตใจไม่ต่ำ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้วในทางการเมือง วันข้างหน้าจะเป็นคำตอบที่ดีว่าจะเป็นอย่างไร ที่บอกว่าคุณชวน คุณบัญญัติ ควรถึงเวลาพักแล้วนั้น คุณชูวิทย์ควรเรียกร้องให้คนที่โกงการเลือกตั้ง คนที่โกงชาติบ้านเมืองหยุดพักจะดีกว่า เพราะคนเหมือนนายชวน นายบัญญัติ ทุกคนควรชักชวนคนแบบนี้ให้อยู่กับการเมืองเพื่อทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศ
นายชวนเข้ามาทำงานการเมืองเพราะความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาทำงานให้กับประชาชนและประเทศโดยยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง ตัดสินใจมาเป็นนักการเมืองไม่สอบเป็นผู้พิพากษาไม่สอบเป็นอัยการ ได้รับการเลือกตั้ง 15 สมัย มากที่สุดในบรรดานักการเมือง ไม่เคยซื้อเสียง ไม่โกงชาติบ้านเมือง ผลงานของนายชวนทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศมากมายและทำในสิ่งที่ยั่งยืนด้วยการริเริ่มการกระจายอำนาจ โครงการเบี้ยยังชีพ ถนนสี่ช่องจราจร ปฏิรูปการศึกษาแบบครบวงจร ริเริ่มใช้หลักประกันสุขภาพ โครงการนมโรงเรียน โครงการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ส่งเสริมให้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สิ่งนี้คือนโยบายที่คิดเพื่อความยั่งยืน เด็กเล็กๆไม่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งแต่นายชวนคิดถึงความยั่งยืนของเยาวชนไทยทั้งเรื่องสุขภาพและการเข้าถึงการศึกษา เพราะคิดถึงความยั่งยืนของเยาวชนและของประเทศ นี่คือนักการเมืองที่ชื่อชวน หลีกภัย ได้คิดและทำได้จริง
ยังมีตัวอย่างที่ดีอีกมากมายถ้าคุณชูวิทย์สะดวกมาที่พรรคผมจะอธิบายให้ฟัง คุณชูวิทย์ควรเรียกร้องให้นักการเมืองที่คิดแต่เรื่องทุจริตหยุดพักจะดีกว่า ส่วนคุณชูวิทย์นั้นผมไม่ทราบว่าหยุดพักเพราะเหตุใด ความคิดเห็นในพรรคประชาธิปัตย์แตกต่างกันบ้างเป็นเรื่องปกติแต่สำหรับประเด็นเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ พรรคประชาธิปัตย์มีกระบวนการขั้นตอนตามกฎเกณฑ์กติกา ใครจะมีความคิดเห็นอย่างไรก็สามารถคิดได้แต่ท้ายที่สุดมติพรรคที่มาจากการตัดสินใจของสมาชิกจะเป็นตัวกำหนด และทุกคนก็เคารพมติพรรค พรรคประชาธิปัตย์เรามีหลักวางใจได้ว่าคิดทำสิ่งใดเราคิดเพื่อประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง