ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
จีดีพี เกษตร Q1 ทรงตัว ขยาย 0.5% เหตุอ้อยผลผลิตลด/ตั้งเป้าทั้งปีโต 3%
24 เม.ย. 2562

นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 1 ปี 2562 พบว่า ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 1ขยายตัวได้ในระดับต่ำหรือค่อนข้างทรงตัว เป็นผลมาจากอัตราการขยายตัวของสาขาพืชที่ชะลอลงเป็นหลัก (มูลค่าการผลิตของสาขาพืชมีสัดส่วนสูงสุดในภาคเกษตร) อย่างไรก็ตาม การผลิตพืชเศรษฐกิจหลายชนิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และลำไย ยกเว้นอ้อยโรงงาน ซึ่งมีมูลค่าการผลิตสูงสุดในสาขาพืชในไตรมาสแรก กลับมีผลผลิตลดลงค่อนข้างมาก ด้านการผลิตสินค้าปศุสัตว์โดยรวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาด รวมทั้งมีการจัดการฟาร์มที่ได้คุณภาพมาตรฐาน ส่วนการผลิตสินค้าประมง ผลผลิตกุ้งทะเลเพาะเลี้ยงเริ่มปรับตัวดีขึ้น และการทำประมงทะเลและการเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมีทิศทางเพิ่มขึ้น 

สาขาพืช ไตรมาส 1 ปี 2562 ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 สำหรับ ข้าวนาปี  มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาข้าวในปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะราคาข้าวหอมมะลิที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้เกษตรกรขยายเนื้อที่เพาะปลูกในนาที่เคยปล่อยว่าง ข้าวนาปรัง มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรกรมีการจัดการดูแลที่เหมาะสม และมีปริมาณน้ำเพียงพอในช่วงการเพาะปลูก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูก ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา

มันสำปะหลัง มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคามันสำปะหลังในปีที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นมาก จูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูก และปลูกทดแทนพืชอื่น เช่น อ้อยโรงงานและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเนื้อที่กรีดได้เพิ่มขึ้นจากต้นยางพาราที่ปลูกตั้งแต่ปี 2556 โดยปลูกแทนในพื้นที่พืชไร่ พื้นที่นา ไม้ผล และต้นยางพาราที่มีอายุมาก ประกอบกับเนื้อที่กรีดได้ส่วนใหญ่เป็นต้นยางพาราที่อยู่ในช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูง ปาล์มน้ำมัน มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น และต้นปาล์มน้ำมันส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูง ประกอบกับสภาพอากาศเอื้ออำนวยและปริมาณน้ำเพียงพอ ลำไย มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นลำไยที่ปลูกในปี 2559 เริ่มให้ผลผลิตในปีนี้ และเกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนมาผลิตลำไยนอกฤดูเพิ่มขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศเหมาะสม เกษตรกรมีการบำรุงดูแลรักษาที่ดี ต้นลำไยจึงออกดอกติดผลมากกว่าปีที่ผ่านมา

ผลผลิตพืชที่ลดลง ได้แก่ อ้อยโรงงาน มีผลผลิตลดลง เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ส่งผลให้การแตกกอและการเจริญเติบโตของต้นอ้อยไม่สมบูรณ์ ประกอบกับในช่วงปลายปี 2561 มีการเปิดหีบอ้อยเร็วขึ้น ทำให้เกษตรกรบางส่วนเร่งตัดอ้อยไปแล้วในช่วงก่อนหน้า สับปะรดโรงงาน มีผลผลิตลดลง เนื่องจากราคาสับปะรดที่เกษตรกรขายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ถึงเดือนกรกฎาคม 2561 ทำให้เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น เช่น มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น

ด้านราคา ในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2562 สินค้าพืชที่มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ยังมีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการกำหนดราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8 บาท (ความชื้นไม่เกิน 14.5%) ภายใต้โครงการตามนโยบายประชารัฐ และมันสำปะหลังมีราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ขณะที่ความต้องการของตลาดมีอย่างต่อเนื่อง

สินค้าพืชที่มีราคาเฉลี่ยลดลง ได้แก่ ข้าว มีราคาลดลง เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการของตลาดต่างประเทศลดลง ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการสั่งซื้อ อ้อยโรงงาน มีราคาลดลงตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก เนื่องจากปริมาณน้ำตาลของโลกอยู่ในภาวะล้นตลาด สับปะรดโรงงาน มีราคาลดลง เนื่องจากปริมาณผลผลิตยังคงมีมากกว่าความต้องการของตลาด ยางแผ่นดิบ มีราคาลดลง เนื่องจากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากเนื้อที่เปิดกรีดยางใหม่ ขณะทีjผู้ประกอบการภายในประเทศชะลอการสั่งซื้อยาง รวมถึงผลกระทบจากอุปทานส่วนเกินของผลผลิตยางพาราโลก ปาล์มน้ำมัน มีราคาลดลง เนื่องจากปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันออกมาสู่ตลาดมาก รวมทั้งสต็อกน้ำมันปาล์มมีปริมาณสูงกว่าสต็อกเพื่อความมั่นคงที่ประเมินไว้ และลำไย มีราคาลดลง เนื่องจากปริมาณผลผลิตลำไยที่ออกสู่ตลาดจำนวนมากจากการปรับเปลี่ยนมาผลิตลำไยนอกฤดูเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.5 – 3.5 โดยทุกสาขาการผลิต ได้แก่ สาขาพืช สาขาปศุสัตว์ สาขาประมง สาขาบริการทางการเกษตร และสาขาป่าไม้ ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ การดำเนินนโยบายด้านการเกษตรต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ ภัยแล้งที่เกิดขึ้นเร็วกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ปริมาณน้ำต้นทุนสะสมและแหล่งน้ำธรรมชาติในบางพื้นที่ มีไม่เพียงพอต่อการผลิตทางการเกษตร และอาจส่งกระทบต่อการผลิตทางการเกษตรในระยะถัดไป ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรแสหกรณ์ได้มีติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...