นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ รักษาการเลขาธิการพรรค แถลงผลประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ซึ่งเป็นการประชุมตามที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด ที่ต้องรับรองงบการเงิน ซึ่งที่ประชุมได้รับรองงบการเงินประจำปี 2561 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชีของพรรคและจะมีการรายงานให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ต่อไป รวมถึงให้ที่ประชุมรับทราบการทำกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ของพรรค เท่าที่กฎหมายอนุญาต และการเพิ่มจำนวนสมาชิกพรรค ซึ่งปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์ มีสมาชิกทั้งหมด รวมกัน 128,377 คน
ทั้งนี้ สาเหตุที่การประชุมเมื่อช่วงเช้าต้องเลื่อนออกไปอีกกว่า 2 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องเริ่มประชุมในเวลา 09.30 น. เป็นเวลา 12.00 น. เนื่องจากสมาชิกบางส่วนเดินทางมาจากต่างจังหวัดซึ่งต้องใช้เวลาเดินทาง ทำให้การประชุมล่าช้ากว่ากำหนด และจะมีการประชุมนัดต่อไปในวันที่ 15 พฤษภาคม เพื่อดำเนินการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ พร้อมยืนยันในที่ประชุมไม่ได้พูดถึงจุดยืนทางการเมืองในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ส่วนสถานการณ์ภายในพรรคหลังเลือกตั้ง มีเพียงนายกษิต ภิรมย์ ที่ เสนอความคิดว่า พรรคควรตั้งทีมงานเพื่อศึกษาจุดอ่อนจุดแข่งของพรรค ในการเตรียมความพร้อมให้กับพรรค ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
สำหรับการชี้แจงในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคต่อประเด็นการศึกษาจุดแข็งจุดอ่อนของพรรค มีนายกนก วงษ์ตระหง่าน ได้รับมอบหมายให้ศึกษาเป็นรายภาคไว้อยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถศึกษาได้ครอบคลุม เพราะบริบทการต่อสู้ทางการเมือง แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน จึงต้องทำการศึกษาอย่างละเอียด ซึ่งคาดว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นน่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ได้ลุกขึ้นขอโทษสมาชิกพรรคที่ทำให้ผิดหวังในการเลือกตั้ง ซึ่งการเดินทางไปหาเสียงทั่วประเทศ ก็เพื่อหวังชนะเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 1 หรือ อันดับ 2 โดยอยากให้ได้คะแนนเพิ่มจาก 5,000 เป็น 10,000 คะแนน เพื่อเพิ่มคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ให้ได้ 50 ที่นั่ง ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อผลที่ออกมาจะแพ้เลือกตั้ง ก็ขอให้ทุกคนทำงานร่วมกับพรรคต่อไป และขอให้เข้าใจนายจุติ เลขาธิการพรรค ซึ่งนายชวนได้ตำหนิไปเยอะแล้ว ขณะที่นายจุติ ก็ได้ขอโทษสมาชิกพรรค ที่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน ส่วนกลุ่มของนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.จังหวัดสงขลา ไม่ได้มีการเสนอความเห็นใดๆ เพียงมาเข้าร่วมประชุมเท่านั้น