กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ ผู้เสนอซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐ ครั้งที่ 1/2562 ประมาณ 41,000 ตัน โดยแบ่งเป็นการจำหน่ายเป็นการทั่วไป ประมาณ 13,000 ตัน จำหน่ายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ประมาณ 15,000 ตัน และจำหน่ายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ประมาณ 13,000 ตัน ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 โดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) กำชับให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) คุมเข้มกำกับดูแลให้ผู้ซื้อข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมนำข้าวที่ประมูลได้ไปใช้ในอุตสาหกรรมตามที่แจ้งรับรองตนเองไว้โดยเคร่งครัด
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ เปิดเผยว่า รองประธานกรรมการ นบข. (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) รับคำสั่งประธานกรรมการ นบข. (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้เห็นชอบการออกประกาศจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ครั้งที่ 1/2562 ประมาณ 41,000 ตัน แบ่งเป็น การจำหน่ายเป็นการทั่วไป ประมาณ 13,000 ตัน จำหน่ายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ประมาณ 15,000 ตัน และจำหน่ายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ประมาณ 13,000 ตัน โดยในวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ปรากฏว่ามีผู้ประกอบการเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐ ทั้ง 3 กลุ่ม ดังนี้
- การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2562 มีผู้สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ จำนวน 17 ราย
- การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2562 มีผู้สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ จำนวน 17 ราย
- การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2561 มีผู้สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ จำนวน 10 ราย
โดยการระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม ทั้ง 2 กลุ่ม คณะกรรมการ นบข. ได้ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลการนำข้าวในสต็อกของรัฐไปใช้ในอุตสาหกรรม โดยกำชับให้ อคส. กำหนดมาตรการและกำกับดูแลให้ผู้ชนะการประมูลนำข้าวที่ซื้อจากสต็อกของรัฐไปใช้ในอุตสาหกรรมตามที่ได้รับรองตนเองไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการรั่วไหลเข้าสู่ระบบการค้าปกติ ซึ่งหากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข และนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะทำงานรับซองเสนอราคาซื้อ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะร่วมกันตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เสนอซื้อทุกรายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศฯ โดยหากปรากฏภายหลังว่าผู้เสนอซื้อรายใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามที่ประกาศฯ กำหนด จะถือว่าผู้เสนอซื้อรายนั้นขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น และไม่สามารถยื่นเสนอซื้อข้าวในสต็อกของรัฐได้
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่ากรมฯ จะประกาศรายชื่อผู้เสนอซื้อที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นในการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2562 เวลา 09.00 น. และการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน รวมทั้งการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนสัตว์ จะประกาศรายชื่อฯ ในวันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2562 เวลา 09.00 น. หรือทางเว็บไซต์ของกรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th