ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ ดึงผู้ซื้อจากทั่วโลกกว่า 130,000 คน ร่วมเจรจาธุรกิจ กระตุ้นการซื้อขายกว่า 11,500 ล้านบาท ในงาน “THAIFEX 2019” 28 พ.ค.- 1 มิ.ย.นี้
29 พ.ค. 2562

            กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ ประเทศเยอรมนี ในฐานะผู้จัดงานอย่างเป็นทางการของงาน THAIFEX – World of Food Asia ร่วมกันจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก “THAIFEX – World of Food ASIA 2019” บนพื้นที่ที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายนนี้ เผยผลตอบรับเข้าร่วมงานดีเกินคาด มีผู้ประกอบการร่วมแสดงสินค้ากว่า 6,000 คูหา จาก 40 ประเทศ ผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้ากว่า 7,300 คน จาก 106 ประเทศ คาดจะมีผู้ซื้อหลั่งไหลมาชมงานจากทั่วโลกกว่า 130,000 คน เกิดมูลค่าการซื้อขาย 11,500 ล้านบาท

            นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า THAIFEX - World of Food Asia เป็นงานแสดงสินค้าและเครื่องดื่มระดับนานาชาติ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 28 และเป็นครั้งที่ 16 ที่ร่วมงานกับออแกไนเซอร์งานแสดงสินค้าระดับโลกอย่างโคโลญเมสเซ่ จากประเทศเยอรมนี ความยิ่งใหญ่ของงานนี้ทำให้มีผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกมาร่วมแสดงสินค้าเป็นจำนวนมาก และยังมีผู้ซื้อจากทั่วโลกพร้อมใจกันเดินทางมาร่วมเจรจาธุรกิจ โดยในแต่ละครั้งจะมีมูลค่าการซื้อขายและก่อให้เกิดการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 10,000 ล้านบาท สำหรับการจัดงานในปีนี้ นับว่ามีความยิ่งใหญ่ มีความเป็นสากล และมีกิจกรรมที่น่าสนใจกว่าทุกปี ทำให้มีผู้ประกอบการจากประเทศต่าง ๆ กว่า 40 ประเทศ อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอมริกา ลาตินอเมริกา แอฟริกา พร้อมใจกันมาจัดแสดงสินค้ารวมกว่า 2,700 บริษัท 6,000 คูหา มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้ากว่า 7,300 คน จาก 106 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ อเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินเดีย ซึ่งคาดการณ์ว่าตลอดทั้งงานจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 130,000 คน และมีมูลค่าการซื้อขาย 11,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อขายในวันเจรจาการค้า 11,445 ล้านบาท และการจำหน่ายปลีก 55 ล้านบาท

            นอกจากจะมีการจัดแสดงสินค้า เทคโนโลยีและบริการ ทางด้านอาหารแล้ว งานนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมงานได้มาอัพเดตสถานการณ์และเทรนด์ของธุรกิจอาหารที่มีความทันสมัย และมีนวัตกรรมที่น่าสนใจ ผ่านกิจกรรมพิเศษ นิทรรศการ การประกวด และการสัมมนา อาทิ การแข่งขันทำอาหาร การสัมมนาเกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์อาหารไทยในการเป็นครัวของโลก กิจกรรมส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปและร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Select การสาธิตปรุงอาหารโดยเชฟคนไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก กิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรมและการออกแบบในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร การนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้สูงอายุ การแสดงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่น นิทรรศการเทรนด์อาหารของโลก

           “กิจกรรมปีนี้ยังมีความพิเศษกว่าทุกปีเนื่องจากมีกิจกรรมใหม่ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก อาทิ การจัดแสดงของผู้ประกอบการที่มีศักยภาพรายใหม่ที่ได้รับการคัดสรรจากพาณิชย์จังหวัดกว่า 104 บริษัท กิจกรรมสำหรับสินค้าอาหารอนาคตและสตาร์ทอัป และสัมผัสประสบการณ์และเทรนด์อาหารอาเซียน งานนี้จึงเป็นงานที่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และผู้สนใจในธุรกิจอาหาร ตลอดจนร้านค้าปลีก-ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และโรงแรม ไม่ควรพลาดที่จะเข้ามาชม” นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว

           นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เทรนด์ของอุตสาหกรรมอาหารมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน สืบเนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความตื่นตัวในการผลิตสินค้าที่คำนึงถึงความต้องการในด้านดังกล่าวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เทรนด์เรื่องเทคโนโลยีและดิจิทัลยังเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคสนใจ ซึ่งขณะนี้ ผู้ประกอบการได้เร่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ SME ในอาเซียน พบว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านเทคโนโลยีมากที่สุดในอาเซียน โดยเฉพาะการลงทุนทางด้านซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น แอปพลิเคชั่นบนมือถือที่พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภค ดังนั้นงาน THAIFEX - World of Food Asia ปีนี้จึงได้รวบรวมเทรนด์สินค้าอาหารที่อยู่ในกระแสความสนใจมานำเสนอ รวมทั้งมีการสัมมนาให้ความรู้ด้านนวัตกรรมอาหารและเทคโนโลยีที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารและบริการมีมูลค่าสูงขึ้น

            “งานนี้มีเป้าหมายที่จะเป็นสื่อกลางและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนำสินค้าใหม่มานำเสนอแก่ผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่จะได้รวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้ซื้อ เพื่อนำไปพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น กล่าวได้ว่างานนี้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของประเทศไทย เป็นการตอกย้ำการเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มอันดับหนึ่งในเอเชียสำหรับผู้ซื้อทั้งในภูมิภาคนี้และทั่วโลก” นายกลินท์ กล่าว

             ทางด้าน นายแมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคโลญเมสเซ่ จำกัด ได้เปิดเผยถึงกิจกรรมการเจรจาธุรกิจภายในงานว่า งาน THAIFEX-World of Food Asia ให้ความสำคัญกับการเจรจาทางธุรกิจเป็นอันดับหนึ่ง โดยปีนี้ได้เพิ่มช่องทางออนไลน์เพื่อให้เกิดการจับคู่ทางธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงให้ความสำคัญกับการบริการ โดยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนและการเดินทางให้กับผู้ร่วมเจรจาธุรกิจรวมทั้งผู้เข้าร่วมงานทุกคน อาทิ การตั้งตู้รับบัตรเข้างานอัตโนมัติกว่า 20 เครื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าให้สามารถใช้บริการ Self-Check-in ได้โดยไม่เสียเวลา และการจัดทำบัตรสมาชิก THAIFEXclusive สำหรับผู้ที่เข้าชมงานติดต่อกัน 2 ปี ให้สามารถเข้ารับบริการและใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในงาน และไม่ต้องลงทะเบียนเข้าชมงานในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการอำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางทุกรูปแบบ รวมถึงการเดินทางโดยเรือ (Shuttle Boat) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศได้ผ่อนคลายและชื่นชมธรรมชาติและสถานที่สำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังเป็นการลดปัญหาการจราจรและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย

          สำหรับงาน THAIFEX - World of Food Asia 2019 จัดขึ้นบนพื้นที่กว่า 131,000 ตารางเมตร ที่ IMPACT Challenger Hall 1-3 และ IMPACT EXHIBITION Hall 5-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2562  โดยวันที่ 28–31 พฤษภาคม เวลา 10.00 – 18.00 น. เป็นวันเจรจาธุรกิจ ส่วนวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 10.00 – 20.00 น. เป็นวันเจรจาธุรกิจและจำหน่ายปลีก

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...