ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญปัญหาสภาวะแวดล้อมทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ขยะล้นโลก โดยเฉพาะขยะพลาสติกในท้องทะเล เรื่อง เหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไขเดิมทีเศรษฐกิจแบบเส้นตรง (Linear Economy) คือการนำทรัพยากรมาผลิตสินค้า และเมื่อเลิกใช้แล้วจะถูกทิ้งไม่นำกลับมาใช้อีก เศรษฐกิจแบบเส้นตรงจึงส่งผลกระทบต่อโลก โลกจึงต้องเปลี่ยนแปลง
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยร่วมมือกับSCGดำเนินการด้านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) เพื่อสร้างการรับรู้ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กับนักศึกษา บุคลากรและผู้บริหาร โดยเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นแนวทางธุรกิจใหม่โดยพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างตลาด ลูกค้า และทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ รวมถึงใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ไปสู่ระบบผลิตแบบหมุนเวียนเป็นการรักษาคุณค่าของทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรใหม่น้อยที่สุด โดยการสร้างระบบการผลิตใหม่ ผ่านการออกแบบใหม่ การสร้างคุณค่าใหม่ การสร้างนวัตกรรมใหม่ การสร้างความร่วมมือเพิ่มขึ้น ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และการใช้ซ้ำ ถือเป็นการสร้างคุณค่าที่ดีขึ้นและสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม รวมถึงธุรกิจอีกด้วย
นายวรภัทร เลิศชวพร (น้องกาย) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เจ้าของผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์แบรนด์ CHANAS เล่าว่า “ภายหลังได้เข้าร่วมกิจกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) ที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยฯ ร่วมกับ SCG และเรียนวิชาการจัดการผลิตภัณฑ์ตราสินค้า เป็นวิชาของสาขาการตลาด โดยอาจารย์ประจำวิชาได้ให้โจทย์มาว่าให้เรานำสินค้าผลิตภัณฑ์โอทอปไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น ทำให้ผมได้ตระหนักคุณค่าของทรัพยากรอย่างมาก ผลิตภัณฑ์แบรนด์ CHANASมาจากเศษผ้าที่ได้มาฟรี ที่เหลือจากการตัดเป็นผืนเพื่อนำไปขาย เศษผ้าพวกนี้จะเป็นเศษผ้าที่ไม่สามารถนำไปทำประโยชน์อื่นๆ ได้ไม่สามารถนำไปขายได้ ซึ่งถ้าโดยปกติทางครอบครัวของสมาชิกกลุ่มบ้านเก่าโก หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านคู อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ก็จะนำเศษผ้าเหล่านี้ทิ้งทั้งหมด แต่เราได้นำเศษผ้าในส่วนนั้นมาประยุกต์ใช้รีไซเคิลขึ้นมาใหม่เป็นกระเป๋า เราก็สามารถใช้ประโยชน์จากเศษผ้าตรงนี้ได้ ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเราอีกด้วย โดยความแตกต่างคือกระเป๋าที่ทำจากผ้าไหมของแบรนด์อื่นจะเป็นเศษผ้าไหมแท้ทั้งใบโดยนำผ้าไหมมาทำเป็นประเป๋า แต่ของเราจะเป็นเศษผ้าไหมที่นำมาจัดสี จัดลูกเล่นต่างๆ และนำมาผสมผสานกับหนังแท้เพื่อให้มันดูร่วมสมัยมากขึ้นอีกทั้งยังมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มากขึ้น ซึ่งราคาขายจริงๆ ของกระเป๋าใบนี้จะอยู่ที่ประมาณ 9,900 บาท”
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยพร้อมเสริมสร้างความเข้าใจ และสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตและการบริโภคสู่แนวปฏิบัติของเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการนำเสนอตัวอย่างการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปประยุกต์ใช้กับนักศึกษาทุกคณะ ทุกชั้นปี พร้อมหวังให้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพราะความร่วมมือจะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเกิดขึ้นได้จริง เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย