ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.25562 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา จึงแต่งตั้งให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกอบพิธีรับ รับสนองพระบรมราชโองการ ณ ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมกล่าวขอบคุณประชาชน ที่ ห้องสีม่วง โดยมี 18 พรรคการเมือง ที่เข้าร่วมรัฐบาล เข้าร่วมในพิธีด้วย
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ตนเองและครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ
ขอยืนยันว่า จะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ จะเพียรพยายามมุ่งมั่นทำงาน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงวัย ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมและป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยีสร้างสรรค์สังคมให้มีความรักความสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์เพื่อความกินดีอยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย
ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ ขอขอบคุณพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน และให้โอกาสได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ทุกท่านตั้งใจไว้ ขอขอบคุณประชาชน ข้าราชการพลเรือน ตำรวจทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ตลอดจนภาคประชาสังคม ธุรกิจเอกชน ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเป็นพลังที่คอยเกื้อหนุนและร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศไทยของเราให้มีความสงบร่มเย็นมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป