ในปัจจุบันนี้มีความแตกต่างมากมายลักษณะเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะกลุ่มเด็กพิเศษที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลและช่วยเหลือเป็นพิเศษ เพิ่มเติมจากวิธีการตามปกติ ทั้งด้านการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ และการเข้าสังคม เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพของตนเอง โดยสถาบันต่างๆมีการออกแบบการดูแล ช่วยเหลือเด็ก ตามลักษณะความจำเป็น และความต้องการของเด็กแต่ละคน เพื่อให้น้องๆเหล่านี้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียมกับกลุ่มบุคคลทั่วไปด้านสวัสดิการสังคมต่างๆ
โครงการ “Happy Together กีฬาหรรษา...สร้างความเข้าใจ” จัดโดยคณะการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ สาขาการจัดการอีเว้นท์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นการพาเด็กนักเรียนปกติโรงเรียนวัดสนามจันทร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่5 - ประถมศึกษาปีที่6 จำนวนทั้งหมด 60 คน มาพบปะแลกเปลี่ยนทำกิจกรรมร่วมกับเด็กนักเรียนพิเศษโรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูลมัธยมต้น ประมาณ มัธยมศึกษาปีที่1 - มัธยมศึกษาปีที่2 จำนวนรวมทั้งหมด 58 คน จัดกิจกรรมสันทนาการ แข่งกีฬาสี เพื่อสนับสนุนให้น้องๆเล็งเห็นความสำคัญและความแตกต่างเด็กพิเศษกับเด็กปกติ เด็กแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นเด็กพิเศษหรือเด็กปกติทุกคนล้วนแต่มีความแตกต่างกันออกไป มีทั้งจุดอ่อน จุดดีอยู่ในตัวของแต่ละบุคคล โครงการนี้สนับสนุนการอยู่ร่วมกันระหว่างเด็กพิเศษและเด็กปกติอย่างมีความสุข ถึงแม้จะทีความแตกต่างกันแต่ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ทำกิจกรรมด้วยกันได้ ถ้าเด็กปกติมีจุดอ่อนตรงไหนแล้วเด็กพิเศษเขามีจุดเด่นตรงนั้นช่วยกันเติมเต็มในจุดนั้นได้ ที่สำคัญยังเป็นการร่วมปลูกฝั่งให้ทุกคนคอยดุแลช่วยเหลือกันและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
น.ส. วิลาวัณย์ กล่อมเกลี้ยง (อิงฟ้า) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ สาขาการจัดการอีเว้นท์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เล่าว่า “โครงการ “Happy Together กีฬาหรรษา...สร้างความเข้าใจ” ถือว่าเป็นโครงการประจำสาขาอยู่แล้วที่มีการจัดขึ้นในทุกๆ ปีเพื่อตอบแทนสังคมอยู่แล้ว ทุกคนจะมีหน้าที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นโปรดิวเซอร์ ครีเอทีฟ เออี โปรดักชั้น ดีไซน์เนอร์ โดยการมอบหมายงานนั้นจะแบ่งตามความถนัดของแต่ละบุคคล แต่หน้าที่หลักของตัวเองจะเป็นในส่วนของโปรดักชั่น โดยต้องติดต่อสถานที่ดูสถานที่ที่จะใช้จัดกิจกรรม ทางทีมจะให้ครีเอทีฟคิดกิจกรรมขึ้นมาแล้วส่งให้ทางดีไซน์เป็นคนดีไซน์ออกมาให้เป็นรูปร่างเสร็จแล้วทางดีไซน์ก็จะส่งต่อมาให้ทางเราเพื่อที่จะจัดเตรียมงาน อุปกรณ์ สถานที่ต่างๆ ให้สมบูรณ์มากที่สุดเหมือนกันที่ทางดีไซน์ๆ ได้ออกแบบไว้ ทั้งนี้มีการวางแผนโดยให้ทีมงานไปลงพื้นที่ก่อนวันจัดงานจริง เรายังมีวันพรีอีเว้นท์ที่นำวิทยากรจากโรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูลมาให้ความรู้กับน้องๆ ที่โรงเรียนวัดสนามจันทร์ก่อนวันจริง เพื่อให้น้องๆ ทำความเข้าใจว่าน้องเด็กพิเศษเป็นอย่างไรแล้วน้องๆ ทีเป็นเด็กปกติควรปฏิบัติต่อเด็กๆ ที่อยู่ในกลุ่มเด็กพิเศษอย่างไร โดยทีมงานมีการทำเวิร์คช็อปกับน้องๆ ที่โรงเรียนวัดสนามจันทร์ก่อนที่เราจะนำไปร่วมกิจกรรมจริงๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้น้องๆ เด็กปกติเข้าใจว่าเพื่อนที่เขาต้องไปทำกิจกรรมด้วยเป็นอย่างไรแล้วเขาต้องปฏิบัติต่อเพื่อนเขาอย่างไร”
“ในวันทำกิจกรรมจริงทีมงานเราโชคดีตรงที่ว่าทีมงานมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือเด็กนักเรียนในกรณีที่น้องเด็กพิเศษเกิดปัญหาบ้างอย่างขึ้น ถ้าเด็กคนไหนเกิดปัญหาระหว่างทำกิจกรรมทีมงานของเราก็จะเข้ามาดูแลเป็นพิเศษ แต่ถ้าเด็กคนไหนเกินกว่าที่เราจะรับมือก็จะมีทางอาจารย์ของเด็กพิเศษเข้ามาช่วยเหลือดูแล กิจกรรมครั้งนี้รู้สึกประสบความสำเร็จเกินคาดกว่าที่คิดไว้ เพราะตั้งแต่เราทำมาในขั้นตอนวางแผนการทำงานเราอาจจะมองไม่เห็นภาพความเป็นจริง แต่พอถึงวันจริงที่เราได้ลงมือทำจริงมองเห็นว่าเด็กทุกคนที่ได้เข้ามาร่วมโครงการมีความสุขกับกิจกรรมครั้งนี้ มีรอยยิ้มตลอด เด็กนักเรียนที่ปกติก็ช่วยดูแลเด็กพิเศษทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเวลาเดินก็มีการช่วยประคอง เชือกรองเท้าหลุดก็ผูกให้ โดยนักเรียนช่วยดูแลกันและกันทุกอย่าง พอเราเห็นภาพตรงนี้เราก็มีความสุขไปด้วยที่ได้สร้างความทรงจำดีดีให้นักเรียน เด็กพิเศษถึงแม้ว่าเขาจะมีความแตกต่างบ้างแต่เขาก็ยังสามารถอยู่ในสังคมเราได้อย่างปกติ ทุคนเปิดใจและให้โอกาสกับสำหรับเขา ทุกคนต้องเชื่อว่าเขามีด้านดีและมีความเก่ง ความสามารถอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว และเด็กพิเศษสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข” น.ส. วิลาวัณย์ กล่าวทิ้งท้าย