างเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้มีนโยบายกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยได้สั่งการให้กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ และสำนักงานจัดหางานจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานเป็นจำนวนมาก เช่น สมุทรสาคร ปทุมธานี สมุทรปราการ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร อาทิ เขตห้วยขวาง เขตสุขุมวิท เป็นต้น ซึ่งมีสถิติการลักลอบทำงานสูง ให้จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองตรวจเข้มการทำงานของแรงงานต่างด้าวและดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด ซึ่งตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2561 – 18 มิถุนายน 2562 ได้ตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างด้าวไปแล้ว จำนวน 417,546 คน และดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือขายสินค้า ขายอาหารตามแผงต่างๆ ขายของหน้าร้าน รวมทั้งเร่ขายสินค้า และงานอื่น ๆ ได้แก่ พนักงานรักษาความปลอดภัย วินมอเตอร์ไซต์ นวดแผนไทย และเสริมสวย ซึ่งเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำตามกฎหมาย จำนวน 6,647 คน ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติเมียนมามากที่สุด 4,250 คน รองลงมาเป็นกัมพูชา 1,050 คน ลาว 665 คน เวียดนาม 349 คน และอื่นๆ 333 คน โดยได้เปรียบเทียบปรับแรงงานต่างด้าว คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 28,845,200 บาท ผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางแล้ว จำนวน 6,529 คน ขณะที่ตรวจสอบนายจ้าง/สถานประกอบการไปแล้ว 25,273 ราย/แห่ง ดำเนินคดี 1,420 ราย/แห่ง คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 12,225,400 บาท รวมค่าปรับทั้งนายจ้างและแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น 41,070,600 บาท
“แรงงานต่างด้าวต้องมีใบอนุญาตทำงานและทำงานตรงกับที่ระบุไว้ในใบอนุญาต โดยงานที่ทำต้องไม่ใช่งานที่ห้ามคนต่างด้าวทำหรือนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท หากผู้ใดพบเห็นคนต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบต่อไป”