กรมโรงงานอุตสาหกรรมยิ้มหลังมูลค่าลงทุนครึ่งปี 2562 สูงถึง 1.95 แสนล้านบาท โตกว่า 15% มั่นใจทั้งปีสามารถสร้างเงินลงทุนได้กว่า 4.30 แสนล้านบาทเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 20% ผลอานิสงส์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ กลุ่มผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม กลุ่มอาหาร มูลค่าลงทุน 28,894.95 ล้านบาท ลดลง 15% กลุ่มการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ กลุ่มผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติก
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) แถลงผลการดำเนินงานครึ่งปี 2562 (มกราคม- มิถุนายน) พบว่ามูลค่าลงทุนอยู่ที่ 195,688.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมมีมูลค่าลงทุนมากที่สุด 38,530.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,369.9% รองลงมาเป็นกลุ่มอาหาร มูลค่าลงทุน 28,894.95 ล้านบาท ลดลง 15.76%, กลุ่มการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ 19,570.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.43%, การผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ 12,109.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น45.25% และกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติก 12,170.47 ล้านบาท ลดลง 6.95% โดยคาดว่าครึ่งปีหลัง 2562 การลงทุนในการขออนุญาตประกอบกิจการใหม่ จะตื่นตัวขึ้นมากกว่าครึ่งแรกของปี 62 อานิสงส์จากสถานการณ์ทางการเมืองภายหลังเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มีความชัดเจนมากขึ้นทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุน มั่นทั้งปีจะเกิดการลงทุนไม่กว่า 430,000 ล้านบาทหรือเติบโตประมาณ 20% อย่างไรก็ตามมีจำนวนโรงงานขออนุญาตทั้งสิ้น 2,064 โรงงานลดลงปีจากปีก่อน 18% ขณะที่การจ้างงาน 92,262 คน ลดลงอีก 5%
“สำหรับการจ้างงานที่พบว่าปรับตัวลดลงส่วนหนึ่งมาจากผู้ประกอบการหันมาพัฒนาศักยภาพแรงงาน และส่วนหนึ่งมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ทดแทนแรงงานตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่ประเทศไทยเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 โดยอุตสาหกรรมที่ขออนุญาตประกอบกิจการและขยายกิจการโรงงานในครึ่งแรกของปี และมีการจ้างแรงงานมากสุด คือ อุตสาหกรรมอาหารมีการจ้างงาน 19,495 คน ลดลง 36% รองลงมาเป็นการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ 11,218 คน เพิ่มขึ้น 103%, อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายยกเว้นรองเท้า จ้างงาน 8,029 คนเพิ่มขึ้น 164.11%, ผลิตภัณฑ์ยานพาหนะและอุปกรณ์รวมถึงการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ 7,542 คน เพิ่มขึ้น 60% และผลิตภัณฑ์พลาสติก จ้างงาน7,604 คน ลดลง 34% เป็นต้น” นายทองชัย กล่าว