คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีความกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธสงคราม และการกระทำที่ทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และป่าเถื่อน เช่น การใช้ระเบิดสังหารในที่ชุมชน การใช้อาวุธสงครามสังหารเด็กและสตรี รวมถึงลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกายของผู้ที่บริสุทธิ์แล้ว ยังเกิดความเศร้าสลดใจแก่ผู้ที่พบเห็นและสังคมโดยรวม โดย กสม. ขอแสดงความเสียใจ อย่างสุดซึ้งต่อทุกเหตุการณ์ ต่อทุกชีวิตและร่างกาย ต่อทุกครอบครัวที่สูญเสียดังกล่าว
เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เวลาประมาณ ๐๘.๑๐ น. ได้มีกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (เฉพาะกิจ ๓๓) บริเวณอำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจดังกล่าวที่ปฏิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน ๒ ราย และมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเด็กชายอายุเพียง ๗ ปี เด็กหญิงอายุ ๑๒ ปี และผู้หญิง ยังความสลดเสียใจต่อการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้ ขอประณามการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม เช่นนี้ อีกทั้งขอให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้เสียสละ และกล้าหาญในการปกป้องประเทศชาติ และขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้
๑.ขอให้ผู้ที่ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงได้ยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที เพราะการกระทำดังกล่าวนอกจากจะละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อมนุษยธรรมอีกด้วย
๒. ขอสนับสนุนให้รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔ ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ในการเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนดำรงชีวิตอย่างปกติสุข
๓. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ดำเนินการฟื้นฟูสภาพจิตใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว
๔. ประชาชนและทุกภาคส่วนของชุมชน จะต้องช่วยกันสอดส่อง และระมัดระวังถึงภยันตรายทั้งปวงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน จากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ และร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรง และแนวทางอยู่ร่วมกันในฐานะประชาชนชาวไทยอย่างสันติสุข
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบในโอกาสต่อไป