น.ส.อุษาศรี เขียวระยับ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ในปีนี้ รัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้มีกฎหมายการห้ามใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและโฟม ทั้งในส่วนของธุรกิจบริการอาหาร (ภัตตาคารและร้านอาหาร) และสำหรับผู้บริโภค โดยล่าสุดมีรัฐแมรี่แลนด์ ฮาวาย และวอชิงตัน ที่กำลังเสนอร่างกฎหมายเพื่อออกเป็นข้อบังคับใช้ เพราะคนอเมริกันต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ที่ต้องการช่วยลดและไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ขณะที่รัฐฮาวาย วุฒิสภาของรัฐฮาวายได้ผ่านร่างกฎหมายห้ามมิให้มีการจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ประเภทเครื่องดื่มขวด เครื่องใช้ไม้สอย กล่องบรรจุอาหาร ถุงพลาสติก หลอดดูด และยังมีกฎหมาย SB11 ห้ามมิให้ภัตตาคาร ร้านอาหาร เสริฟอาหารในบรรจุภัณฑ์ Polystyrene และกฎหมายSB367 ห้ามมิให้บาร์ ภัตตาคารให้กล่องใส่อาหารที่ทำจากวัสดุ Polystyrene รวมทั้งหลอดดูด และถุงพลาสติกแก่ลูกค้า ซึ่งกฎหมายกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนของรัฐ
“ปัจจุบันการออกระเบียบการห้ามใช้พลาสติกและโฟมได้ขยายตัวเข้าสู่ระดับมลรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกลดลง มีผลต่อการผลิตและการนำเข้าวัตถุดิบหรือเม็ดพลาสติก แต่ในทางกลับกัน กฎหมายได้เปิดโอกาสให้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบย่อยสลายได้จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และเป็นโอกาสของผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ที่หากผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุอื่นทดแทนพลาสติกได้ ก็จะมีโอกาสในการส่งออกและทำตลาดในสหรัฐฯ ได้ดีขึ้น”น.ส.อุษาศรีกล่าว
<p class="x_MsoNormal" style="-webkit-font-smoothing: antialiased; color: rgb(32, 31, 30); font-family: " leelawadee="" ui="" web",="" "kmer="" ui",="" "segoe="" -apple-system,="" blinkmacsystemfont,="" roboto,="" "helvetica="" neue",="" sans-serif;="" margin:="" 0cm="" 0.0001pt;="" text-align:="" justify;="" text-indent:="" 36pt;="" line-height:="" normal;="" font-size:="" 11pt;"=""> ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก โทร 001-1-312 787-3388 หรือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือช่องทางสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169