ก.พลังงาน ยืนยัน การหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานา ในช่วง 26 -29 กพ. นี้ ไม่กระทบต่อระบบความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศ ยันเตรียมมาตรการรองรับใช้น้ำมันเตาและดีเซลทดแทน พร้อมชวนประชาชนมีส่วนร่วมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 26 -29 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ กระทรวงพลังงานได้รับรายงานจากผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติในแหล่งยาดานา ในประเทศเมียนมาร์ ที่จะดำเนินการต่อเชื่อมแท่นผลิตใหม่ จากหลุม Badamyar และจะมีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อรักษาระดับความสามารถในการจ่ายก๊าซ ซึ่งเบื้องต้นการซ่อมบำรุงดังกล่าว จะส่งผลให้ก๊าซธรรมชาติจากเมียนมาร์ ไม่สามารถจัดส่งให้ประเทศไทยได้ คิดเป็นปริมาณก๊าซที่จะหายไปประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่า การหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทย โดยกระทรวงพลังงานได้เตรียมมาตรการรองรับ ได้แก่ การใช้น้ำมันเตา และน้ำมันดีเซลเดินเครื่องทดแทนปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ลดลง โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณการใช้น้ำมันเตารวม 34.8 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซลรวม 8.1 ล้านลิตร ในส่วนของการบรรเทาผลกระทบในภาคขนส่ง ผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) และภาคอุตสาหกรรมบางส่วน จะใช้ก๊าซที่เก็บไว้ในระบบท่อ (Line Pack) ประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการ และทางบมจ.ปตท. ได้มีการจ่ายก๊าซธรรมชาติจากฝั่งตะวันออกย้อนเข้าไปในระบบเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติที่ขาดหายไปในช่วงดังกล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานสั่งการให้ บมจ.ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์การหยุดซ่อมบำรุงแหล่งยาดานานี้ และให้รายงานต่อกระทรวงพลังงานอย่างใกล้ชิด รวมถึงกระทรวงพลังงานจะขอความร่วมมือให้ประชาชนร่วมกันรณรงค์ลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยง และขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมติดตามสถานการณ์นี้ผ่านเว็บไซด์ www.sothailand.com/eppo/loadprofile/GenMapEN.aspx ซึ่งจะสามารถเห็นถึงปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าในลักษณะตามเวลาจริง (real time)