ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ. 2561 โดยทำงานร่วมกับภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อกำกับดูแลสุขาภิบาลร้านอาหาร ภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว สตรีท ฟู้ด ร้านกาแฟและเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารมีความรู้ สามารถปรุง ประกอบอาหารที่สะอาด ปลอดภัยจากการปนเปื้อนเชื้อโรค สารเคมี หรือโลหะหนัก ลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ เช่น โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ เป็นการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว
ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการด้านสุขาภิบาลอาหารตามมาตรฐานของกรมอนามัย ได้อย่างดีเยี่ยม โดยจัดทำโครงการ PHUKET City Of Gastronomy ยกระดับการดำเนินงานด้านสุขาภิบาลอาหาร จนได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร รวมถึงมีมาตรฐาน “ร้านอาหารไทยปลอดภัย สุขภาพดี” (Clean Food Good Taste Plus) และมาตรฐานร้านอาหารภูเก็ตปลอดภัย สุขภาพดี (สา’สุข ยกนิ้ว) : Safe Food Good Hygiene Clean Kitchen ยกระดับและพัฒนาร้านอาหารให้มีคุณภาพ โดยส่งเสริมให้ชมรมผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร อาทิ คณะกรรมการผู้ค้า ตลาดสาธารณะ ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร ชมรมผู้ประกอบการค้าแผงลอย สอดส่องดูแลความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนมั่นใจได้ว่าอาหารที่บริโภคมีมาตรฐาน มีคุณภาพ และปลอดภัย ซึ่งจังหวัดภูเก็ต มีสถานประกอบการจำหน่ายอาหาร 540 ร้าน ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste) จำนวน 453 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 83.89
ด้านนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สาระสำคัญของกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ. 2561 ได้กำหนดเรื่องสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สำหรับบริโภคอาหาร สุขลักษณะของอาหาร สุขลักษณะของภาชนะ อุปกรณ์ และสุขลักษณะส่วนบุคคลของผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร ซึ่งผู้ประกอบกิจการ และเจ้าหน้าที่ผู้สัมผัสอาหาร ต้องเข้ารับการอบรม ตามหลักสูตรที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติงานได้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลอาหาร พร้อมนำหลักฐานการรับรองที่หน่วยงานจัดการอบรมออกให้มายื่นต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อขออนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายอาหาร ซึ่งหลักฐานการรับรองผ่านการอบรมมีอายุ 3 ปี โดยตั้งแต่ 25 เมษายน 2562 ถึงปัจจุบัน ทั่วประเทศมีผู้ผ่านการอบรมแล้วกว่า 20,000 คน