นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า หลายคนอาจเคยมีอาการปวดหู ซึ่งเป็นอาการอักเสบของหูชั้นนอก หรือหูชั้นกลาง โดยการอักเสบของหูชั้นนอกคือใบหูและรูหู มักเกิดจากการแคะหู ทำให้เกิดแผล จนเกิดการอักเสบตามมา ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหูโดยเฉพาะเมื่อจับหรือดึงใบหู รูหูบวม มีน้ำไหลจากหู การได้ยินลดลง สามารถรักษาให้หายขาดได้ ภายใน 1-2 สัปดาห์ในขณะที่หูชั้นกลางอักเสบ พบมากในเด็กเล็กและวัยเรียน และมักพบร่วมกับการเป็นหวัด เด็กจะมีอาการไข้ ปวดหู กินอาหารได้น้อย ซึม การได้ยินลดลง และอาจมีน้ำหนองไหลจากหู โดยการติดเชื้ออาจลามเข้าสู่หูชั้นใน ทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินและเยื่อแก้วหูทะลุถาวรได้
นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการปวดหูเกิดขึ้นได้ในทุกอายุ และอาจส่งผลต่อการสูญเสียการได้ยิน เมื่อสงสัยว่าหูอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง โดยแพทย์อาจให้การรักษา ดังนี้ ให้ยาฆ่าเชื้อแบบหยอดหูหรือแบบกิน ทำความสะอาดรูหูโดยแพทย์กรณีเด็กเล็ก แพทย์อาจพิจารณาให้นอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดดำ นอกจากนี้ การป้องกันเป็นส่วนสำคัญเพื่อลดการเกิดโรคหูอักเสบและภาวะแทรกซ้อน โดยงดการใช้ไม้แคะหู ไม่หยอดน้ำหรือสารใดๆ เข้าหูเพื่อทำความสะอาดหู เพราะรูหูมีกลไกการทำความสะอาดเองอยู่แล้ว หากมีเด็กเล็กในบ้านเป็นหวัดควรรีบพาไปพบแพทย์ และที่สำคัญหากสงสัยภาวะหูอักเสบควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียการได้ยินในอนาคต