ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
“วีรศักดิ์”สั่งลุยปลุกเศรษฐกิจฐานราก ฟื้นโชวห่วย เพิ่มจำนวนสินค้า GI ดันเกษตรกรใช้ประโยชน์ค้าเสรี
12 ส.ค. 2562

“วีรศักดิ์”มอบนโยบายเดินหน้าปลุกเศรษฐกิจฐานราก หวังเพิ่มเงินในกระเป๋าเกษตรกร ประชาชน และผู้ผลิตชุมชน เตรียมลุยฟื้นโชวห่วย เพิ่มจำนวนสินค้า GI สร้างโอกาสให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากการค้าเสรี พร้อมให้เดินหน้าอาร์เซ็ป ฟื้นเอฟทีเอไทย-อียู เร่งเอฟทีเอกับปากีสถาน ตุรกี ศรีลังกา และจัดประชุมเจทีซีกับคู่ค้า ขยายความร่วมมือค้าขาย

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เชิญอธิบดีและผู้บริหารหน่วยงานภายใต้การกำลังดูแล มาหารือเพื่อขับเคลื่อนงานไปสู่การปฏิบัติ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดนโยบายการทำงานเร่งด่วนไว้ 10 ข้อ ซึ่งในนโยบายเร่งด่วนนี้ มีถึง 6 ข้อ ที่เกี่ยวข้องกับงานในการกำกับดูแลของตน ที่ได้กำกับดูแลงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , กรมทรัพย์สินทางปัญญา , กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ , ศูนย์ส่งเสริมศิลปะชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) , สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) , และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน)

“ได้เน้นให้หน่วยงานที่ผมรับผิดชอบ เดินหน้าภารกิจที่มุ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากก่อน เพราะเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างรายได้ให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ประชาชนที่อยู่ในส่วนภูมิภาค ผู้ผลิตสินค้าชุมชน ผู้ประกอบการในชุมชน หากทำให้คนเหล่านี้มีความเข้มแข็ง มีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม”

ทั้งนี้ ในส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มอบหมายให้เร่งพัฒนาการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน , การเข้าไปช่วยพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อย (โชวห่วย) เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจท้องถิ่น เพราะเป็นร้านค้าที่ใกล้ชิดประชาชน กระจายอยู่ทั่วประเทศ หากสร้างความเข้มแข็ง ก็จะทำให้โชวห่วยของไทยอยู่รอด และเป็นที่พึ่งของประชาชนในระดับฐานราก , การส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP Select โดยให้ช่วยพัฒนาปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานสินค้า และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในช่องทางต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และการเร่งสร้างและขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น และสร้างผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ เพื่อให้คนมีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจเพิ่มขึ้น

สำหรับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ขอให้เน้นการส่งเสริมให้มีการเพิ่มจำนวนสินค้าที่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ 111 รายการ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่เป็นแหล่งผลิต โดยหลังจากนี้ ขอให้มีชุดเคลื่อนที่ (โมบาย ยูนิต) ลงพื้นที่ไปแนะนำและให้ความรู้แก่เกษตรกร ผู้ผลิตในชุมชน เพื่อจัดทำคำขอขึ้นทะเบียน GI ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพสินค้า และส่งเสริมช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้มูลค่าตลาดเพิ่มสูงขึ้นเป็น 5,300 ล้านบาทให้ได้  

ส่วนกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ขอให้เร่งรัดผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนและคู่เจรจา 6 ประเทศ ให้ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ตามเป้าหมาย การเตรียมการเพื่อฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) การเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอที่กำลังเจรจาอยู่ทั้งไทย-ปากีสถาน ไทย-ตุรกี และไทย-ศรีลังกา ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว การเตรียมการเจรจาเอฟทีเอกับอังกฤษ ที่กำลังออกจากอียู การพิจารณาการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) และให้เดินหน้าจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (เจทีซี) กับประเทศคู่ค้า เช่น สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม บังกลาเทศ และอิรัก เป็นต้น เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า และขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน

ขณะที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปะชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) , สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) , และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) ได้ขอให้ขับเคลื่อนภารกิจที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในระดับฐานรากให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น และให้นำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานและการให้บริการ  

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...