บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ตอกย้ำเจตนารมณ์มุ่งมั่น “เติมสุขให้ทุกชีวิต” คว้ารางวัลบริษัทที่ดูแลชุมชนยอดเยี่ยมในเอเชีย (Top Community Care Companies in Asia) ภายในงานมอบรางวัลองค์กรที่เป็นเลิศและยั่งยืนแห่งเอเชีย (Asia Corporate Excellence & Sustainability Awards 2019: ACES Awards 2019) โดยมีนายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นตัวแทนรับรางวัล
นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เชลล์ ประเทศไทยยึดถือในการดำเนินธุรกิจของเราตลอดระยะเวลา 128 ปีที่ผ่านมา คือการเป็นองค์กรที่สร้างความสุขให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเชลล์ ลูกค้า พันธมิตรคู่ค้า ตลอดจนถึงชุมชนที่อยู่รอบข้างเรา โดยในฐานะผู้นำแห่งธุรกิจพลังงาน นอกเหนือจากการส่งมอบพลังงานที่มีคุณภาพ ดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว อีกหนึ่งภารกิจ คือ การมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คน ตลอดจนพัฒนาสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เมื่อมองไปข้างหน้า เราต้องการเป็นองค์กรแนวหน้าในการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือสังคม สนับสนุนการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สนับสนุนเจตนารมณ์ของเราในการ เติมสุขให้ทุกชีวิต
รางวัลบริษัทที่ดูแลชุมชนยอดเยี่ยมในเอเชีย มอบให้กับสุดยอดองค์กรที่มีบทบาทในการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ ผ่านโครงการและการร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ โดยที่ผ่านมา บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้พัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่สะอาดที่มีประสิทธิภาพและดีต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยสามองค์ประกอบหลักในการทำงาน คือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ การร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และการพัฒนาศักยภาพและความเป็นอยู่ของผู้คนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
โดยหนึ่งในนั้น คือ การที่เชลล์เล็งเห็นถึงความสำคัญของโรงเรียนซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเด็กและเยาวชน จึงริเริ่ม “โครงการเชลล์เติมสุข” (Shell Fuel the Happiness) โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและทักษะอาชีพสำหรับนักเรียนผู้สมควรได้รับโอกาสและมีความบกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหว โดยร่วมมือกับมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ ในการพัฒนาโรงเรียนให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้สำหรับชุมชน และส่งเสริมการฝึกทักษะอาชีพ ทั้งการเกษตรกรรมสมัยใหม่และความรู้ทางธุรกิจตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้นักเรียนและครอบครัวสามารถบริหารจัดการกิจการของตนเอง มีทักษะในการใช้ชีวิตและประกอบอาชีพด้วยตนเองได้ โดยตั้งแต่ริเริ่มโครงการใน พ.ศ. 2558 ปัจจุบันโครงการเชลล์เติมสุขได้ขยายการเรียนรู้ไปสู่นักเรียนกว่า 32,000 คน ใน 74 โรงเรียน พร้อมด้วยเงินสนับสนุนจำนวน 27 ล้านบาท และเชลล์จะยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายโครงการต่อไปเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตเยาวชนให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เชลล์คำนึงถึงนโยบายความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญ และต้องการสนับสนุนให้สังคมมีความตระหนักรู้ในเรื่องนี้ จึงได้ริเริ่ม “โครงการปลอดภัยทุกย่างก้าว จากบ้านถึงโรงเรียน” (School Road Safety) ที่ผลักดันให้เกิดความตระหนักรู้และสนับสนุนให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน มุ่งเน้นไปยังกลุ่มนักเรียนระดับประถมศึกษาด้วยการจัดให้มีการฝึกอบรมครูนักเรียน และครอบครัวของนักเรียนเพื่อปลูกฝังพฤติกรรมที่ถูกต้องด้านความปลอดภัยบนท้องถนน และเชลล์ยังได้เข้าไปช่วยดูแลสังคมและชุมชนรอบข้าง อาทิ ชุมชนในพื้นที่คลองเตย ซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับคลังน้ำมันช่องนนทรีมาอย่างยาวนาน ด้วยการดูแลเรื่องความปลอดภัย ติดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัยและวางระบบท่อน้ำดับเพลิงเพื่อป้องกันอัคคีภัยตลอดทั้งชุมชน และความสะดวกรวดเร็วในการควบคุมเหตุเพลิงไหม้ พร้อมการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง และช่วยปรับปรุงศูนย์เฝ้าระวังอัคคีภัยในชุมชนเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนร่วมฝึกซ้อมดับเพลิง เพื่อส่งเสริมทักษะการป้องกันอัคคีภัยให้กับชุมชนและหน่วยงานราชการเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้ เชลล์ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านพลังงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการมุ่งบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาสตามข้อตกลงปารีส (UN Paris Agreement) และสนับสนุนภาครัฐและสังคมให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UNSDG) เพื่อรับมือกับความท้าทายของสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมทั่วโลกในปี 2030
รางวัลองค์กรที่เป็นเลิศและยั่งยืนแห่งเอเชีย (Asia Corporate Excellence & Sustainability Awards: ACES Awards) จัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดย MORS Group เพื่อยกย่องความสำเร็จขององค์กรและบุคคลในทวีปเอเชียในด้านการดำเนินงานช่วยเหลือสังคม