เร่งแผนตั้งวอร์รูมน้ำชาติ
รัฐบาลเร่งตั้งไข่ “กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ” อุดช่องว่างขับเคลื่อนป้องวิกฤติมวลน้ำก่อนส่งผลกระทบประชาชน เน้นย้ำการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยคาดการณ์ไปสู่การวิเคราะห์ชี้เป้าเชิงพื้นที่ให้แม่นยำสูงสุด
นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือกรอบโครงสร้างกองอำนวยการน้ำแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ สทนช. โดยมี พลตำรวจโท ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ให้เป็นผู้บูรณาการหน่วยงานจัดทำกรอบโครงสร้างกองอำนวยการน้ำแห่งชาติให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 กันยายน 2562 รวมถึงกลไกการปฏิบัติงานของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (WAR ROOM) ที่เป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการ “มวลน้ำ” ในภาวะวิกฤติเพื่อป้องกันและลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อรายงานผลการดำเนินงานต่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ โดยเร็วต่อไป
“ที่ประชุมได้มีการหารือถึงกรอบการทำงานร่วมกันภายในการทำงานของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ให้มีผลในทางปฏิบัติเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การคาดการณ์สภาพอากาศ สภาพฝนที่จะให้เกิดความแม่นยำมากที่สุด ซึ่งเบื้องต้นที่ประชุมได้เห็นพ้องร่วมกันว่าการคาดการณ์ลักษณะอากาศ สภาพฝน เพื่อนำไปสู่การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า 3 วัน เพื่อหน่วยงานได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ โดยต้องมีการอัพเดตสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุก 6 ชั่วโมง ซึ่งหน่วยงานหลักที่จะดำเนินการคาดการณ์พายุ สภาพอากาศและปริมาณน้ำฝน จะมี 3 หน่วยงานรับผิดชอบหลัก ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สสน. และ GISTDA จากนั้นกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ชี้เป้าการป้องกันภัยและการเตือนภัยไปยังหน่วยปฏิบัติ เช่น กรมป้องกันบรรเทา สาธารณภัย กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ น้ำท่า รวมถึงแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเป้าหมาย ซึ่งเชื่อมโยงการทำงานกับ “แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558” ในทุกระดับภัยได้” นายสำเริง กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการกำหนดประชุมนัดแรก ในจันทร์ที่ 30 กันยายนนี้ ณ ห้องประชุมศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อติดตามประเมินสภาพอากาศ สถานการณ์ฝน น้ำท่า ซึ่งจากการติดตามคาดการณ์พบว่า ร่องความกดอากาศต่ำเริ่มแผ่ลงมาทางภาคตะวันตกและภาคใต้ ซึ่งต้องมีการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดด้วย