พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ ครม. มีมติให้กระทรวงมหาดไทยใช้จ่ายงบประมาณรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 7.6 พันล้านบาท เพื่อใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อน "โพดุล" และพายุดีเปรสชั่น "คาจิกิ" โดยแบ่งเงินช่วยเหลือออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ครัวเรือนละ 5,000 บาท สำหรับผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่อาศัยประจำ ในกรณี
น้ำท่วมบ้านโดยฉับพลันและทรัพย์สินเสียหาย บ้านถูกน้ำท่วมขังไม่น้อยกว่า 7 วัน และทรัพย์สินเสียหาย หรือ
บ้านเสียหายจากน้ำท่วม พายุ น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม และอีกส่วนเป็นเงินช่วยเหลือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป ในการแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยในขณะนี้ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัยเร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนพี่น้องประชาชน เพื่อที่จะเร่งเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น นอกจากนี้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้ระดมความช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่น ด้านการประกอบอาชีพ ด้านการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และอื่น ๆ เป็นต้น
พลเอก อนุพงษ์ ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัย กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดในการระบายน้ำ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฝนที่อาจจะเกิดขึ้นอีก และให้ดูแลพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยให้ดีในทุกด้าน เช่น พื้นที่พักพิง อาหาร สุขา และยารักษาโรค ต่าง ๆ ข้อสำคัญต้องให้ครบถ้วน ทั่วถึงทุกพื้นที่ ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ที่อยู่ในระหว่างฟื้นฟู ขอให้เร่งสำรวจความเสียหายและความต้องการของประชาชน รวมถึงซ่อมแซมบ้านเรือนให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็วที่สุด