อนาคตราชินีผลไม้ไทยสดใสในไต้หวัน หลังเปิดตัวล็อตแรก 980 กิโลกรัม หมดภายในครึ่งชั่วโมง ปลื้มกระแสตอบรับแรงเกินคาด สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 20 ล้านบาท
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประเทศไทยได้ส่งมังคุดสดอบไอน้ำล็อตแรกไปจำหน่ายที่ไต้หวันเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไต้หวันเกินความคาดหมาย โดยสื่อมวลชนของไต้หวันรายงานข่าวผู้บริโภคชาวไต้หวันจำนวนมากรอเข้าคิวเพื่อซื้อมังคุดที่นำเข้าจากประเทศไทย จนทำให้มังคุดจำนวน 980 กิโลกรัม ซึ่งบรรจุกล่องละ 4 ผล ราคาจำหน่ายกล่องละ 200 บาท จำหน่ายหมดภายในระยะเวลาที่รวดเร็วเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจากการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมายดังกล่าวทำให้ปัจจุบันผู้ประกอบการส่งออกของไทยสามารถส่งมังคุดอบไอน้ำไปจำหน่ายที่ไต้หวันได้ถึงปริมาณ 100,533 กิโลกรัม รวมมูลค่า 20,106,720 บาท
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร มีความต้องการที่จะเปิดตลาดมังคุดที่ไต้หวันอีกครั้ง จึงได้ดำเนินการศึกษาวิจัยหาวิธีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมสำหรับกำจัดแมลงวันผลไม้สำหรับมังคุดที่จะส่งออก โดยใช้วิธีอบไอน้ำปรับสภาพความชื้นสัมพัทธ์ที่อุณหภูมิ 46 องศาเซลเซียส นาน 58 นาทีก่อนการส่งออก ซึ่งวิธีการจัดการความเสี่ยงดังกล่าวเป็นวิธีการเดียวกับที่ดำเนินการส่งออกมังคุดไปประเทศญี่ปุ่น และได้ส่งข้อมูลผลการทดลองให้สำนักงานกักกันและตรวจสอบสุขอนามัยพืชและสัตว์ของไต้หวันพิจารณา
ทั้งนี้ ไต้หวันได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านกักกันพืชของไต้หวันเดินทางมาร่วมทำการทดลองวิจัยวิธีการอบไอน้ำกับเจ้าหน้าที่กักกันพืชของไทย ผลการทดลองพบว่าวิธีการดังกล่าวสามารถกำจัดระยะไข่ของแมลงวันผลไม้ตายได้อย่างหมดสิ้น ทำให้ไต้หวันได้ออกประกาศข้อกำหนดนำเข้าผลมังคุดสดจากไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 ภายใต้เงื่อนไขทุกครั้งที่จะมีการส่งออกไต้หวันจะส่งเจ้าหน้าที่กักกันพืชฯ ของไต้หวันมาปฏิบัติงานร่วมตรวจสอบกระบวนการอบไอน้ำกับเจ้าหน้าที่กักกันพืชของไทยเพื่อควบคุมการส่งออกมังคุดให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยมังคุดผลสดอบไอน้ำล็อตแรกของไทยได้ถูกส่งไปที่ไต้หวันเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา