นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการรขับเคลื่อน 5จี ระดับชาติ ว่า หากมีโอกาสจะพยายามหารือกับนายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการผลักดันการขับเคลื่อน 5จี ให้เป็นวาระแห่งชาติ เช่นเดียวกัน โดยอาจมีการเสนอรายละเอียดทั้งในเรื่องของรูปแบบ โครงสร้าง รวมถึงผลสัมฤทธิ์ที่ตามมา จะเป็นไปในทิศทางใด
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การผลักดันการขับเคลื่อน 5จี ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) มีส่วนสำคัญอย่างมาก แต่ปัจจุบันต้องประสบปัญหาเรื่องการลงทุนในระบบ 3จี และ 4จี ที่ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน ดังนั้น จึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อให้โอเปอเรเตอร์มีความเชื่อมั่น และมีความสนใจที่จะลงทุน ไม่เช่นนั้น ประเทศไทยจะล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและขับเคลื่อน 5จีไปแล้วก่อนหน้านี้
“เชื่อว่า การจัดการประมูลคลื่นความถี่ครั้งต่อไป กสทช.จะปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการประมูลให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพตลาดในปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนให้ 5จี เกิดขึ้น และไม่ทำให้ประเทศไทยต้องตกขบวน แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบด้าน เพราะหากรีบร้อนที่จะก้าวสู่ 5จี เร็วเกินไปไม่เกิดประโยชน์ อาจทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานไม่ดีเท่าที่ควร โดยจากนี้จะมีการหารือร่วมกับ กสทช. เป็นระยะ” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อ กสทช. จัดการประมูลคลื่นความถี่ และคลื่นความถี่พร้อมใช้งาน แต่ละหน่วยงานอาจต้องนำเสนอว่า จะนำ 5จีไปใช้งานในด้านใดบ้าง ซึ่งจะทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถลงทุนขับเคลื่อนได้อย่างตรงจุด ซึ่งจะเริ่มจาก 5 ภาคส่วนที่สำคัญๆ ก่อน ได้แก่ ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม การสาธารณสุข การขนส่ง และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้)