นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติชี้ว่า การให้ร้านกาแฟเก็บข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการ WiFi คือหนึ่งนโยบายทีช่วยทำลายเศรษฐกิจของฐานรากเช่นเดียวกับอีกหลายนโยบายที่ผ่านมาในรอบห้าปี ทั้งการจัดระเบียบทางเท้า การจัดระเบียบเครื่องสำอาง การจัดระเบียบสถานที่ท่องเที่ยว การจะออกนโยบายหรือบังคับใช้กฏหมายใดๆ ต้องดูให้รอบด้านทุกด้านว่ามีผลกระทบกับอะไรบ้าง ไม่ใช่เน้นเฉพาะต้องการสร้างความมั่นคงของผู้อยู่ในอำนาจให้ยืนยาว ไม่ดูผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนและประเทศชาติ
จากรายงานสภาวะเศรษฐกิจทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน สถานศึกษา และรายงานผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจหลังจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อ 24 มีนาคม รายงานส่วนใหญ่แสดงผลที่ทำให้ประชาชนหมดหวัง สถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลงทุกเดือน ปริมาณข่าวการฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจมีความถี่ขึ้น เป็นข้อบ่งชี้ว่าสถานะเศรษฐกิจฐานรากของประเทศในเวลานี้อยู่ในสภาพโคม่า กฏหมายหรือนโยบายใดๆที่รัฐบาลจะนำมาใช้ต้องคำนึงถึงลำดับความสำคัญก่อน ขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากคือความสำคัญลำดับแรกที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข มาตรการทางกฏหมายหรือนโยบายใดๆ ที่กระทบต่อการทำให้เศรษฐกิจฐานรากอ่อนแอ หรือทำลายอาชีพของกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากต้องชะลอไว้ก่อน ต้องเลือกดำเนินการโครงการที่มีผลช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
การที่จะให้ร้านกาแฟลงทะเบียนผู้ใช้ WiFi ที่มีพื้นฐานมาจากความคิดต้องการสร้างความมั่นคงทางอำนาจของรัฐบาล แต่ส่งผลกระทบทำให้ลูกค้าร้านกาแฟน้อยลง ถ้าจำนวนลูกค้าน้อยลงไปถึงจุดที่ไม่คุ้มทุนร้านกาแฟก็ต้องปิดตัวไป เท่ากับมาตราการนี้ช่วยทำลายเศรษฐกิจร้านกาแฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจฐานราก กระทรวงดี.อี. สามารถสร้างโครงการมากมายที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การขยายโครงข่ายโครงสร้างการสื่อสาร การส่งเสริมการผลิตปัญญาประดิษฐ์ฯลฯ ในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยของประเทศ รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีต้องมีวิสัยทัศน์ ลำดับความสำคัญของปัญหาก่อนหลังเป็น และการจะดำเนินมาตรการใดๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบให้รอบด้าน นางสาวเกศปรียากล่าว