ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
“ประภัตร”เดินสายสร้างการรับรู้ ส่งเสริมเกษตรกรนาแปลงใหญ่
17 ต.ค. 2562

“รมช.ประภัตร”เดินสายสร้างการรับรู้“เกษตรกรนาแปลงใหญ่” พัฒนาระบบการผลิตข้าว เน้นผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน เตรียมเปิดขายตลาดออนไลน์ นำร่อง จ.สุพรรณบุรี

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมสร้างความเข้าใจการพัฒนาระบบการผลิตตามมาตรฐานการรับรองแบบกลุ่มในพื้นที่นาแปลงใหญ่ จังหวัดสุพรรณบุรีว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันผลิต จำหน่าย และบริหารจัดการร่วมกัน ทั้งในรูปของกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์ เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานตามความต้องการของตลาด การเชื่อมโยงตลาด และบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ของสินค้าเกษตร

ทั้งนี้ นาแปลงใหญ่เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตและบริหารจัดการผลิตข้าว มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มเกษตรกรให้มีความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อปรับเปลี่ยนห่วงโซ่การผลิตข้าวแบบเดิม โดยผสานเชื่อมโยงกันตั้งแต่การเพาะปลูกข้าวไปจนถึงการตลาด รวมทั้งการผลิตข้าวที่ได้มาตรฐาน อาทิ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP)

โดยกระบวนการรับรองการผลิตข้าวมีทั้งการรับรองรายเดี่ยวและการรับรองแบบกลุ่ม ซึ่งการขอการรับรองแบบกลุ่มนั้น จะช่วยประหยัดงบประมาณและเวลา สร้างความเข็มแข็งและความยั่งยืนในการผลิตให้กับกลุ่มเกษตรกร เป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถขอการรับรองได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบการผลิตตามมาตรฐาน โดยใช้ระบบการรับรองแบบกลุ่ม ให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวในพื้นที่โครงการนาแปลงใหญ่ ซึ่งบูรณาการงานร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมการข้าว เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำแก่กลุ่มเกษตรกร ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับรองแบบกลุ่ม

“เกษตรกรเองจะต้องช่วยกันผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน Q  ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และขณะนี้กำลังส่งเสริมการขายระบบออนไลน์ โดยจะนำร่องที่หมู่บ้านอยุรักษ์ควายไทย จ.สุพรรณบุรี ก่อน โดยให้เกษตรกรนำสินค้าเกษตรของตนเองที่ได้รับรองมาตรฐาน Q มาลองขายผ่านระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก ซึ่งจะมีการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เกษตรกรได้ขายสินค้าเกษตรของตัวเองโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เชื่อว่าหากทุกอย่างมีตลาด เกษตรกรก็จะสามารถผลิตและขายได้ราคาดี” นายประภัตร กล่าว

ด้าน นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการ มกอช. กล่าวเสริมว่า กระบวนการรับรองการผลิตข้าวแบบกลุ่ม เป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถขอการรับรองได้รวดเร็วขึ้น โดยกลุ่มเกษตรกรต้องมีระบบการผลิตและระบบควบคุมภายในกลุ่ม (Internal Control System) ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรับรองว่า กิจกรรมการผลิตของเกษตรกรเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดและเชื่อถือได้ การมีระบบควบคุมภายในของกลุ่มเกษตรกรจะช่วยให้กลุ่มมีการบริหารงานเป็นระบบในลักษณะการประกันคุณภาพของกลุ่ม โดยใช้เอกสารต่างๆ เป็นเครื่องมือ ช่วยให้กลุ่มสามารถปฏิบัติงานได้ถูกต้องตามแนวทางความยั่งยืนหรือข้อปฏิบัติของกลุ่มที่ได้ตกลงกันไว้

 “ที่ผ่านมา มกอช.ได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบการผลิตตามมาตรฐานโดยใช้ระบบการรับรองแบบกลุ่ม ให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี อุตรดิตถ์ ยโสธร และสุรินทร์ โดยให้ความรู้และคำแนะนำแก่กลุ่มเกษตรกรให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับรองแบบกลุ่ม การพัฒนาเอกสารระบบควบคุมภายในกลุ่ม ตลอดจนส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรขอการรับรองแบบกลุ่มขอบข่าย การผลิตข้าว GAP/อินทรีย์ โดยบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบของกรมการข้าวในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กลุ่มเกษตรกรก่อนที่จะขอการรับรองแบบกลุ่มกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป”เลขาธิการ มกอช. กล่าว

สำหรับนาแปลงใหญ่ ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี มีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการพัฒนาระบบการผลิตตามมาตรฐานโดยใช้ระบบการรับรองแบบกลุ่ม ขอบข่ายข้าว GAP จำนวน 115 คน ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม พื้นที่รวม 2,095 ไร่ ปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 และปทุมธานี 1

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...