เมื่อเร็วๆนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นำโดย ศาสตราจารย์ ดร. ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัย และวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (วทอ.)ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ดร. นาต บุญเรือน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬา แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และคณะกรรมการอำนวยการโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเข้าเยี่ยมชมการเรียนการสอน การแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมของคณาจารย์และนักศึกษา รองศาสตราจารย์ ดร.สมิตร ส่งพิริยะกิจ คณบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม พร้อมผู้บริหาร หัวหน้าภาควิชาและคณาจารย์ ให้การต้อนรับในการเข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการสาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมการเชื่อม ห้องปฏิบัติการสาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมซ่อมบำรุงอากาศยาน และห้องปฏิบัติการวัสดุวิศวกรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือและความช่วยเหลือแก่สถาบันเทคโนโลยี กำปเณอเตียล และสถาบันเทคโนโลยี กำปงสปือ ซึ่งเป็นสถาบันอันเกิดจากโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา
รองศาสตราจารย์ ดร.สมิตร ส่งพิริยะกิจ คณบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เปิดเผยว่า “ ในปีนี้วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (วทอ.)ให้ความสำคัญกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนพร้อมเป็นศูนย์กลางวิศวะอาเซียน ทางคณะมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นกลุ่มประเทศใหม่ ๆ ที่เราเริ่มร่วมมือกัน ซึ่งแต่เดิมเป็นที่ทราบกันดีว่าชื่อมหาวิทยาลัยเดิมเราชื่อว่า วิทยาลัยเทคนิคไทย-เยอรมัน เรามีความสัมพันธ์อันดีกับมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหลาย 10 มหาวิทยาลัย แต่ในปีนี้ทางคณะเริ่มที่จะมีความร่วมมือมากขึ้นกับมหาวิทยาลัยในกลุ่มอาเซียน โดยมีโครงการแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษาการทำงานวิจัยร่วมกันร่วมกับมหาวิทยาลัยเซบูเทคโนโลจิคอล ประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้คณะยังได้ร่วมกับVictoria University College Myanmar มหาวิทยาลัยประเทศพม่า ซึ่งมีการส่งนักเรียนมาเรียนกับทางคณะวทอ.ปีละไม่ต่ำกว่า 50 คนต่อเทอมเป็นประจำทุกปี ที่สำคัญนักเรียนในมหาวิทยาลัยแถบอาเซียนก็มีความสนใจและอยากที่จะมาเรียนต่อในประเทศไทย ประเทศพม่าเป็นตลาดเปิดใหม่และเป็นช่องทางที่ดีที่นักศึกษาจะได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการทำงานด้านวิศวกรรมในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน ๆ ที่เป็นนักศึกษาไทย เมื่อเขากลับไปยังประเทศแล้วอาจจะต้องการการลงทุนเทคโนโลยีต่าง ๆ จากประเทศไทยผ่านวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ”