“เมื่อเทียบกับปีก่อน นักท่องเที่ยวมาฮ่องกงน้อยลงถึงครึ่งหนึ่งในช่วงสัปดาห์แรก ขณะที่การการจ้างงานของภาคการท่องเที่ยวก็ตกอยู่ใต้ความวิตกกังวล” เอ็ดเวิร์ด เยา เลขาธิการสำนักงานพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกล่าว
การท่องเที่ยวไม่ใช่เหยื่อรายเดียวของเหตุการณ์ความรุนแรงที่ปะทุขึ้นมา โดยบรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่าอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่อการค้าปลีกไปจนถึงธุรกิจอาหาร ต้องเผชิญกับห้วงยามแห่งความยากลำบากจากเหตุความไม่สงบที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มแรงกดดันมหาศาลต่อศูนย์กลางการเงินและการค้าแห่งนี้ที่พยายามดิ้นรนเอาตัวรอดจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำตั้งแต่ปีแก่อน
ปริมาณการส่งออกของฮ่องกงในเดือนสิงหาคมลดลงร้อยละ 6.3 เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อเป็นเดือนที่ 10 แล้ว อีกทั้งยอดค้าปลีกในเดือนสิงหาคมลดลงร้อยละ 23 จากปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนครั้งใหญ่สุดในประวัติการณ์ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยมี 40 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกประกาศเตือนเดินทางสู่ฮ่องกง
เมื่อการส่งออก ยอดค้าปลีกและการลงทุนนั้นลดต่ำลง จึงเป็นเรื่องยากที่จะมองสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในทางบวก พอล เฉิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังขอวฮ่องกงกล่าว หากอัตราการเติบโตไตรมาสต่อไตรมาสปรับสู่แดนลบอีกรอบในไตรมาสที่ 3 จะทำให้เศรษฐกิจฮ่องกงตนอยู่ใต้ภาวะถดถอยในทางเทคนิค
เฉิน เสริมว่าตลาดนั้นรับรู้ถึงถึงผลกระทบจากถสานการณ์ปัจจุบันได้ชัดเจนอยู่แล้ว แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขสถิติต่างๆ จากทางการก็ตาม