ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประจญ ปรัชญ์สกุล รองผู้ว่าฯจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนโครงการเดินรณรงค์ประหยัดน้ำช่วยชาติ จ.เชียงราย โดยมีนายอนุชา ศิริบวรเดช ผู้จัดการ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย นำขบวนเข้าร่วม
นายอนุชากล่าวว่า สถานการณ์น้ำต้นทุนฤดูแล้งนี้กำลังเข้าสู่ระดับวิกฤต คาดว่าจะเกิดภัยแล้งอย่างต่อเนื่องยาวนานและรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ดังนั้นแม้ว่าการประปาส่วนภูมิภาคจะป้องกันและแก้ไขเพื่อรับมืออย่างครอบคลุมแล้ว เช่น บริหารจัดการแหล่งน้ำดิบ การผลิตและจ่าย มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ช่วยเหลือประชาชนด้านต่างๆ รวมทั้งสร้างจิตสำนึก อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงว่าประชาชนทั้งใน-นอกพื้นที่ให้บริการของการประปาส่วนภูมิภาคใน 74 จังหวัดอาจจะได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ดังนั้นจึงมีการจัดโครงการนี้ขึ้น
นายประจญ กล่าวว่า เชียงรายมีมาตรการควบคุมการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งหลายมาตรการ เช่น บริหารจัดการน้ำ รักษาระบบนิเวศ กำหนดช่วงรอบเวรการรับน้ำและรักษาระบบนิเวศน์ในแม่น้ำกกแต่ละจุดอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพของคุณน้ำ ควบคุมการปิดกั้นทางน้ำ ฯลฯ แต่เพื่อให้มีความั่นใจว่าจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งไปให้ได้จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ใช้นำอย่างประหยัด และขอเชิญชวนประชาชนรดน้ำดำหัว แทนการเล่นสาดน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำและยังสืบสานวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณได้ด้วย
สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันนั้นทางจังหวัดยังไม่มีการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติจากภัยแล้ง แต่อยู่ระหว่างให้ทั้ง 18 อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งได้ร่วมกันสำรวจเพื่อแจ้งข้อมูล แต่ก็ขอให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดโดยในภาคการเกษตรของให้ปลูกพืชที่น้ำน้อย
ล่าสุดมีเหตุที่ อ.พญาเม็งราย โดยมีกลุ่มทุนเข้ามาทำสวนกล้วยกว้างหลายพันไร่ และสูบน้ำจากแม่น้ำอิงไปใช้ ทำให้ประชาชนที่ใช้น้ำเกรงว่า จะได้รับผลกระทบ จึงร้องเรียนไปที่ว่าการอำเภอ ล่าสุดทางนายอำเภอฯได้เข้าไปแก้ไขปัญหาด้วยการให้เอกชนหยุดสูบน้ำ และหันไปเจาะบ่อบาดาลแทนแล้ว
ข่าวแจ้งว่า สำหรับบริษัทที่เข้ามาลงทุนทำสวนกล้วยหอมดังกล่าว คือ บริษัท Hongtar International Thailand จำกัด ของกลุ่มทุนจีน ซึ่งท่อน้ำจากเครื่องสูบขนาด 6 นิ้ว สูบน้ำจากน้ำอิงจำนวน 4 จุดจนทำให้แม่น้ำอิงนั้นแห้งขอด ทำให้เกษตรกรที่อยู่ปลายน้ำได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า เอกชนจีนที่ไปลงทุนปลูกกล้วยในแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ จ.เชียงราย ถูกทางแขวงบ่อแก้วแจ้งให้ยุติกิจการเพราะมีการใช้สารเคมีจึงเกรงจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตชาวลาว ทำให้มีการย้ายฐานการปลูกไปยังแขวงอุดมไชยแทน และส่วนหนึ่งเข้าไปเช่าที่ดินใน จ.เชียงรายดังกล่าว