นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ภายใน 2-3 วันนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังจะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง กรณีบริษัทขนาดใหญ่บริษัทหนึ่งที่เคยเป็นรัฐวิสาหกิจและมีการแปรรูปไปเป็นบริษัทเอกชน ดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง มีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส โดยเรื่องนี้ทางผู้ตรวจการแผ่นดินได้ติดตามตรวจสอบมาแล้วประมาณ 1 ปี โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และมีการรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ต้องการที่จะเป็นคู่กรณีกับใคร แต่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ไม่ให้มีการยักยอกเงินภาษีประชาชน ดังนั้นจึงต้องฟ้องร้องเพื่อนำเงินจำนวน 52,000 ล้านบาทคืนให้แก่ประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทดังกล่าวเกี่ยวข้องกับพลังงานหรือไม่ นายศรีราชากล่าวว่า ก็คงเป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งบริษัทนี้มีหน่วยงานขนาดเล็กเป็นจำนวนมากและเข้าข่ายที่จะมีพฤติกรรมทุจริตซึ่งทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป