นายสมเจตน์ เกตุวัตถา นายกเทศมนตรีตำบลบางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ทางเทศบาลฯ เตรียมเข้ารื้อถอนบ้านเรือนประชาชนที่บุกรุกที่ดินสาธารณะมาเป็นเวลานาน 80 หลังคาเรือน ซึ่งขณะนี้ทางเทศบาลฯ ได้ติดหมายศาลแจ้งเตือนให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวรับทราบแล้ว โดยหากบ้านหลังไหนมีเอกสารสิทธิในที่ดินให้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทราบ ถ้าไม่มีก็ให้ย้ายออกจากพื้นที่ทันที แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนหลังไหนยังไม่มีที่อยู่อาศัย หรือสถานที่รองรับก็สามารถยื่นเรื่องขอผ่อนผันไปก่อน เพื่อรอสถานที่แห่งใหม่ที่จะย้ายไปอยู่
“ขณะนี้ได้ติดหมายศาลแจ้งเตือนตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งจะมีระยะเวลา 1 เดือน ช่วงนี้ผ่านไปแล้วกว่า 2 สัปดาห์ โดยยังไม่ใครมายื่นขอตรวจสอบเอกสาร และเมื่อครบระยะเวลาตามที่กำหนด เทศบาลฯพร้อมเข้ารื้อถอนทันที ซึ่งในช่วงนี้มีบางรายเริ่มรื้อถอนบ้างแล้ว” นายสมเจตน์ กล่าว
นายสมเจตน์ กล่าวว่า สำหรับที่ดินบริเวณดังกล่าว ทางเทศบาลฯ มีโครงการจะขยายถนนเป็น 4 เลน พร้อมมีเกาะกลางถนนด้วย ซึ่งอยู่บริเวณเขตเทศบาล 9 ตั้งแต่คอเขาบางพระ ถึงอ่างเก็บน้ำบางพระ ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เพราะในอนาคตถนนเส้นนี้จะรองรับการจราจรจากศรีราชา หรือจากพื้นที่หนองขาม วิ่งมาสู่ถนนสุขุมวิทต่อไป ซึ่งขณะนี้มีการสำรวจออกแบบแล้ว คาดจะใช้งบประมาณ จำนวน 70 ล้านบาท
นางสำรวย ประชุมพันธ์ ชาวบ้านบางพระที่ถูกให้ออกจากพื้นที่ กล่าวว่า มีชาวบ้านหลายรายได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีที่จะไป เพราะได้อยู่อาศัยในที่ดินแปลงนี้มานานสมัยรุ่นปู่ ยา ตา ยาย นับ 100 ปี และให้ออกจากที่ดินแปลงนี้ โดยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนเพราะฐานะทางบ้านยากจน จึงไม่มีที่อยู่ใหม่อย่างแน่นอน จึงอยากขอร้องให้เทศบาลฯ ช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย
ขณะนี้ทราบว่าทางเทศบาลฯ ให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือมีหลักฐานในที่ดินแปลงที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน ขอให้ไปแสดงเอกสารหลักฐานต่อเทศบาลฯ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งของตนมีเอกสารใบรับแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในที่ดิน ตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยจะนำไปแสดงต่อเทศบาลฯ ตรวจสอบต่อไป
นางสำรวย กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเรือนทั้ง 2 ฝั่งถนนสายคอเขา ถึงอ่างเก็บน้ำบางพระ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะต้องถูกรื้อถอนทั้งหมด เพราะมีหมายศาลมาติดตามบ้านเรือนของประชาชนแล้ว ซึ่งบางรายที่มีที่อยู่ใหม่ก็เตรียมขยับขยายไปที่อื่น ส่วนบางรายที่ไม่มีที่ไปก็ยังอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด