ตามนโยบายรัฐบาล ในการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ เพื่อทดสอบระบบการแข่งขันการจัดหา LNG และเตรียมความพร้อมในการเปิดเสรีนำเข้าก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการค้า LNG (LNG Hub)นั้น
ล่าสุด กฟผ. ร่วมกับ บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี จำกัด และ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด จัดพิธีฉลองรับเรือ บรรทุก LNG ลำแรก ปริมาณ 65,000 ตัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าสนับสนุนนโยบายเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ มั่นใจจะช่วยให้ค่าไฟฟ้ามีราคาถูกลง
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในฐานะกรรมการ กฟผ. และประธานในพิธี กล่าวแสดงความยินดีว่า ขอความแสดงความยินดีกับ กฟผ. และ บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี ที่ได้เป็นผู้จัดหาและนำเข้า LNG รายแรกตามนโยบายการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจีแก่บุคคลที่สาม จากเดิมที่มี ปตท. เป็นผู้นำเข้าเพียงรายเดียวตั้งแต่ปี 2554 จนกระทั่ง กฟผ. ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมทำหน้าที่เป็น Shipper รายใหม่ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อปี 2560 โดยพิธีฉลองรับเรือ LNG ลำแรกในวันนี้ นับเป็นความสำเร็จทางด้านพลังงานของประเทศไทย ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่าสถานี LNG และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติของประเทศไทยมีความพร้อมที่จะรองรับการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติในอนาคต
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ขอขอบคุณและขอแสดงความยินดีกับ บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี ที่เป็นผู้ชนะการประมูลราคานำเข้า LNG ในครั้งนี้ ซึ่ง กฟผ. ได้ดำเนินการตามนโยบายการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจีแก่บุคคลที่สามของรัฐบาลที่มอบหมายให้ กฟผ. เป็น Shipper รายใหม่ ในการดำเนินการจัดหา LNG ในปริมาณ 65,000 ตัน จำนวน 2 ลำเรือ รวม 130,000 ตัน ซึ่งการนำเข้า LNG ล็อตแรกในวันนี้นับเป็นนิมิตหมายอันดีของการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย
ด้าน Mr.Ezhar Yazid Jaafar ระบุว่า บริษัท PETRONAS LNG มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็น ผู้จัดหา LNG ให้กับ กฟผ. ตามนโยบายรัฐบาลในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ และความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของประเทศไทย บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการนำเข้า LNG ครั้งนี้จะดำเนินไปด้วยความราบรื่นและประสบความสำเร็จตามที่รัฐบาลตั้งเป้าประสงค์ไว้ และหวังว่าจะได้ร่วมงานกับ กฟผ. และหน่วยงานด้านพลังงานของประเทศอีกในโอกาสต่อไป
ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ดำเนินการจัดหา LNG ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 เห็นชอบให้ กฟผ. จัดหา LNG แบบตลาดจร (Spot) ในปริมาณไม่เกิน 200,000 ตัน โดย LNG ล็อตแรกนำเข้าในเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการ LNG ในตลาดโลกสูง (Peak) และเดือนเมษายน 2563 เป็นช่วงที่ความต้องการ LNG ในตลาดโลกต่ำ (Off-Peak) โดยเมื่อเรือ LNG เทียบท่า กฟผ. จะทำการแปลงสภาพ LNG จากของเหลวให้เป็นก๊าซส่งเข้าสู่ท่อส่งก๊าซของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งก๊าซไปใช้เป็นเชื้อเพลิงที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ชุดที่ 5 และโรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 ซึ่งจากการคำนวณจะช่วยให้ค่าไฟฟ้ามีราคาถูกลงประมาณ 0.01 สตางค์ต่อหน่วย และเรือลำที่ 2 เดือนเมษายน 2563 จะนำไปใช้ผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ชุดที่ 5 โรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ทดแทน ชุดที่ 1 จะช่วยทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลงประมาณ 0.42 สตางค์ต่อหน่วย
ทั้งนี้ กฟผ. และ บริษัท PETRONAS LNG LTD. (PLL) ได้มีพิธีแลกเปลี่ยนสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปริมาณ 130,000 ตัน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งมี นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. ร่วมแลกสัญญากับ Mr.Ezhar Yazid Jaafar ประธานกรรมการบริหารบริษัท PETRONAS LNG LTD. (PLL) ประเทศมาเลเซีย