กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าเกษตร 4.0 เปิดมิติใหม่ให้แก่เกษตรกรไทย จับมือยักษ์อี-คอมเมิร์ซ “ลาซาด้า” จัดอบรมเกษตรกรไทยเป็นผู้ค้าออนไลน์อย่างมืออาชีพ ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดถึงผู้บริโภคโดยตรง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า ปัจจุบันการซื้อขายออนไลน์เป็นทิศทางที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยในปี 2561 ไทยมีมูลค่าการค้าขายในระบบอี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) กว่า 3 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการผลักดันสินค้าเกษตรออนไลน์เป็นหนึ่งในนโยบายขับเคลื่อนเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการเกษตรของกระทรวงเกษตรฯ สู่ไทยแลนด์ 4.0 และเกษตร 4.0 ในการเพิ่มช่องทางและโอกาสทางการตลาดที่สำคัญ ตามแนวทางนโยบายตลาดนำการเกษตร
โดยที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ ได้เดินหน้ายกระดับตลาดเกษตร 4.0 พัฒนาตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ในลักษณะเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถซื้อขายสินค้าเกษตรออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ DGTFarm หรือ ดิจิตอลฟาร์ม ผ่านทาง www.dgtfarm.com และ อตก.เดลิเวอรี่ ผ่านทาง www.ortorkor.com ซึ่งปัจจุบันนี้ กระทรวงเกษตรฯ กำลังขยายความร่วมมือก้าวไปอีกขั้นสู่แพลตฟอร์มลาซาด้า ผู้นำอี-คอมเมิร์ชในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้มีการหารือเบื้องต้นกับทีมบริหารงานผู้ขายลาซาด้าเพื่อสร้างโอกาสร่วมกันให้กับสินค้าเกษตรและเกษตรกรไทย
การจับมือร่วมกันในครั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ กับบริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) ต่างเล็งเห็นถึงโอกาสสำคัญที่จะร่วมกันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ รวมถึงช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรให้ไปถึงมือผู้บริโภคโดยตรง เพื่อยกระดับเกษตรกรไทยให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี พัฒนาความรู้แบบยั่งยืนโดย สามารถเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้า เพื่อนำสินค้าเกษตรเข้าสู่ช่องทางออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องการเพิ่มช่องทางการตลาดให้เกษตรกรได้กระจายผลผลิตในช่วงผลผลิตออกตลาดมากแล้ว ยังช่วยให้เกษตรกรขยายฐานกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำกัด สามารถทำความรู้จักกับกลุ่มลูกค้าของตัวเอง ทำการซื้อขายกับผู้ซื้อ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาสินค้าเกษตรที่ตรงกับความต้องการของตลาด ลดความเหลื่อมล้ำ และยังสามารถนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่ดี จากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคโดยตรง
รัฐมนตรี เกษตรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรฯ จะเริ่มเปิดตัวโครงการต้นปี 2563 เป็นของขวัญปีใหม่ ให้แก่เกษตรกร โดยจัดกิจกรรมอบรมทักษะให้เกษตรกรในแต่ละภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้สามารถขายสินค้าผ่านลาซาด้า โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรฯ และทีมงานมหาวิทยาลัยลาซาด้า ที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ การสมัครเป็นผู้ขาย การใช้ระบบต่างๆ ไปจนถึงเทคนิคการโปรโมทสินค้าเพื่อทำให้ร้านค้ามีความน่าสนใจ การตกแต่งร้านค้าให้โดดเด่น รวมถึงการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อถ่ายภาพสินค้า การทำคลิปวิดีโอ การบรรจุผลิตภัณฑ์และขนส่ง ไปจนถึงการร่วมแคมเปญและกิจกรรมการตลาดต่างๆ ของ ลาซาด้าเพื่อกระตุ้นยอดขาย ในขณะที่กระทรวงเกษตรฯ จะพัฒนาให้เกษตรกรมีความรู้ความสามารถในการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ การแปรรูป และบรรจุสินค้าให้ได้มาตรฐานไปพร้อมๆ กัน
โดยในขั้นตอนแรกจะเน้นจัดกิจกรรมอบรมให้แก่กลุ่มเกษตรกรในระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรและกลุ่ม Young Smart Farmer ซึ่งปัจจุบันมีแปลงใหญ่กว่า 6,000 แปลง เกษตรกรมากกว่า 350,000 ราย ในขณะที่สหกรณ์การเกษตรกว่า 3,000 แห่ง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกว่า 86,000 แห่งทั่วประเทศ และYoung Smart Farmer มากกว่า 11,000 ราย ซึ่งมีสินค้าเกษตรคุณภาพจำนวนหลากหลาย ทั้งกลุ่มพืช พืชผัก/สมุนไพร ไม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ ปศุสัตว์ ประมง แมลงเศรษฐกิจ รวมไปถึงกลุ่มของใช้ต่างๆ อาทิ เสื้อผ้า ของตกแต่ง เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับที่มาจากผลผลิตภาคเกษตรคุณภาพดี ซึ่งพร้อมจะพัฒนาและแปรรูปจำหน่ายสู่มือผู้บริโภคกับลาซาด้า โดยตรง
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำข้อตกลงกับลาซาด้า และจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบในโอกาสต่อไป ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นการเปิดโอกาสและเป็นมิติใหม่ให้แก่เกษตรกรที่มีความสนใจ และยังไม่เคยมีประสบการณ์ขายของออนไลน์ ได้เรียนรู้การขายสินค้าเกษตรผ่านระบบออนไลน์ ด้วยการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าด้วยตนเอง และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และเกษตร 4.0 โดยกระทรวงเกษตรฯ ยังเล็งช่องทางการตลาดออนไลน์โดยขยายไปสู่แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์รายอื่นๆ เพิ่มเติมทั้งในประเทศไปจนถึงสู่ลูกค้าต่างประเทศในอนาคตต่อไป