นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบรายละเอียดว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายรัฐมนตรีกระทรวงใดและเป็นประเด็นไหน พรรคสนับสนุนการตรวจสอบตามครรลองในระบบประชาธิปไตยเป็นสิทธิของฝ่ายค้านสามารถทำได้อย่างเต็มที่ แต่โดยหลักการเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องเป็นการไม่ไว้วางใจผลจากการบริหารราชการแผ่นดินที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินว่าได้กระทำการทุจริตประพฤติมิชอบในการทำหน้าที่อย่างไรบ้าง ตั้งเป็นประเด็นหลักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากนำเรื่องที่ผ่านมาก่อนเข้าทำหน้าที่มาอภิปรายก็จะไม่เกิดประโยชน์ตามเจตนารมณ์ในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร หลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของตัว รมต. ตอนแถลงนโยบายก็อภิปรายกันมาแล้ว บางเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้วก็ต้องถือว่าได้ตรวจสอบถ่วงดุลจากฝ่ายตุลาการแล้ว หลายเรื่องถ้าก่อนทำหน้าที่ของ รมต. ก็มีกระบวนการตรวจสอบช่องทางอื่น ประชาชนอยากเห็นการตรวจสอบการทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินมากกว่า ว่าที่ทำหน้าที่มาผิดพลาดอย่างไรบ้าง ถ้ามาขุดคุ้ยเรื่องเดิมที่ยุติไปแล้วก็จะเป็นประเด็นปัญหาได้
การอภิปรายไม่ไว้วางใจควรตั้งประเด็นให้ชัดตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เมื่อยื่นญัตติเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ก็จะเห็นทิศทางว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง
ส่วนการจะอภิปรายตามประเด็นหรือนอกประเด็นนั้นก็เชื่อว่าประธานสภาผู้แทนราษฏรสามารถควบคุมการประชุมได้ดีและเป็นกลางอยู่แล้ว ส่วนรัฐมนตรีของพรรคก็ไม่มีความกังวลใจใดๆ ต่อการเปิดอภิปรายครั้งนี้