นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พลตำรวจโท ฟาม วัน ก๊าก (Pol. Lt. Gen. Pham Van Cac) อธิบดีกรมตำรวจต่อสู้ยาเสพติด และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย-เวียดนาม เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 13
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามสถานการณ์และแนวโน้มปัญหายาเสพติดของประเทศไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเชิงลึกเกี่ยวกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ ติดตามผลความคืบหน้าการดำเนินการตามมติที่ประชุมฯ ครั้งที่ผ่านมา และหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคต โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ ได้แก่
1. การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการสืบสวนสอบสวนและปราบปรามยาเสพติด
2. การสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติดร่วมกันตามปฏิญญาร่วม (Joint Declaration) การประชุมระดับรัฐมนตรี
เรื่อง การเสริมสร้างประสิทธิภาพของความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติดข้ามชาติ
3. การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด
4. การควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารกาเฟอีนเพื่อมิให้มีการลักลอบลำเลียงเข้าสู่แหล่งผลิต
ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ
5. ความร่วมมือภายใต้โครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย ซึ่งฝ่ายเวียดนามคาดว่าจะสามารถรับเป็นเจ้าภาพได้
ในห้วงกลางปี 2563
6. การดำเนินงานภายใต้โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิต
และทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ( LoA)
7. การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่
ด้านยาเสพติดของทั้งสองฝ่าย
8. ความร่วมมือด้านการลดอุปสงค์ยาเสพติด
รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำและได้ให้ความสำคัญในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ
และการปราบปรามและการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดระหว่างประเทศ สำนักงาน ป.ป.ส.
จึงได้ดำเนินการด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านยาเสพติด ทั้งนี้
เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยเป็นจุดพักยา และเป็นทางผ่านในการลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศที่สาม ตลอดจนเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ