สสว. การดำเนินการ SMEs ปี 62 มูลค่ารวม 7.41 ล้านล้าน คาด GDP SMEs โต 3.0-3.5 ปัจจัยบวกมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล โครงการลงทุนขนาดใหญ่ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจ E-Commerce รัฐจัดงบ 2,686 ล้านบาท หวังช่วยเหลือผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 380,000 ราย
ดร.วิมมลกานต รองผู้อำนวยการรักษาการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) กล่าวว่าสถานการณ์ SME ปี 2562 มี SMEs 3,084,290 ราย ทำให้เกิดการจ้างงานถึง 13,950,241 ราย คิดเป็น 85.5% ของการจ้างงานรวมทั้งประเทศ
ทั้งนี้จากภาวการณ์ส่งออกยังไม่แย่อย่างที่คิด เนื่องจากผู้ประกอบการ SMEs มีการส่งออกมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 2.1% ซึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เครื่องจักรคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โดยประเทศคู่ค้าหลักของเอสเอ็มอีไทย ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและอียู ส่วนหนึ่งมาจากอานิสงส์สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากได้มีการนำเข้าสินค้าไทยทดแทนจากประเทศจีน อย่างไรก็ตามจากค่าเงินบาทแข็ง
สำหรับการส่งเสริม SMEs โดยเฉพาะ Micro SMEs รัฐบาลจึงมุ่งสนับสนุนงบประมาณการส่งเสริมวงเงินรวมกว่า 2,686 ล้านบาทโดยมี สสว. เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลักจำแนกดำเนินงานผ่านแผนงานบูรณาการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสู่สากลมีหน่วยงานพันธมิตรเข้าร่วมขับเคลื่อนงานส่งเสริมเอสเอ็มอี รวม 23 หน่วยงานจาก 9 กระทรวง 1 รัฐวิสาหกิจ ดำเนินโครงการร่วมกันไม่น้อยกว่า 17 โครงการ มีงบประมาณรวม 1,738 ล้านบาท ขณะที่ยังมีโครงการที่การดำเนินงานโดย สสว. โดยตรงวงเงิน 948 ล้านบาท ส่งเสริมปี 2563 จะดำเนิน 5 ด้านหลัก ได้แก่
1.สร้างผู้ประกอบการใหม่ให้ดำเนินธุรกิจแบบ Smart MSME
2.ขับเคลื่อน MSME สู่เศรษฐกิจดิจิทัล
3.พัฒนา Micro SME ให้ได้มาตรฐานสินค้าเข้าสู่ตลาดและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้
4.สร้างการตระหนักรู้ เรื่องการใช้ Data ให้เป็นประโยชน์ในการต่อยอดธุรกิจ
5.ส่งเสริม SME ที่ผลิตสินค้าให้ต่อยอดธุรกิจการค้าบริการ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและยกระดับรายได้
โดยคาดว่า GDP ปี 2563 จะขยายตัว 2.7-3.2% พร้อมคาด GDP SME ปี 2563 ขะขยายตัว 3.0-3.5% โดยมีปัจจัยมาจากแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โครงการลงทุนสาธารณูปโภคขนาดใหญ่จากภาครัฐ ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะช่วยเหลือผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 380,000 ราย