นายอารักษ์  พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากการที่ได้เปิดจดทะเบียนแรงงาน ต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา กิจการแปรรูปสัตว์น้ำ และกิจการประมงทะเลปรากฏว่ามีนายจ้างพาแรงงานมาขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 80,000 คน แรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเลใน 22 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเล ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 ถึง 30 มกราคม 2559 นั้น  ยอดการจดทะเบียนทั้งสิ้น 21,535 คน โดยมีสัญชาติเมียนมา จำนวน 12,070 คน สัญชาติลาว จำนวน 447 คน และสัญชาติกัมพูชา จำนวน 9,018 คน และกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ มียอดการจดทะเบียน ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 จำนวน 55,359 คน สัญชาติเมียนมา จำนวน 45,463 คน สัญชาติลาว จำนวน 957 คน และกัมพูชา จำนวน 8,939 คน 

          คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวประเภทกิจการประมงทะเลและกิจการแปรรูปสัตว์น้ำออกไป โดยกิจการประมงทะเลจะขยายระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2559 และกิจการแปรรูปสัตว์น้ำจะขยายระยะเวลาตั้งแต่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2559 โดยกิจการประมงทะเลมียอดการจดทะเบียนครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2559 จำนวน 2,289 คน โดยมีสัญชาติเมียนมา จำนวน 1,730 คน สัญชาติลาว จำนวน 31 คน และสัญชาติกัมพูชา จำนวน 528 คน กิจการแปรรูปสัตว์น้ำมียอดการจดทะเบียนครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 – 7 มีนาคม 2559 จำนวน 4,663 คน โดยมีสัญชาติเมียนมา 4,083 คน สัญชาติลาว 68 คน สัญชาติกัมพูชา 512 คน รวมทั้งสิ้น 83,846 คน
          นายอารักษ์ฯ เปิดเผยว่า ในระหว่างที่แรงงานต่างด้าวยังไม่มีใบอนุญาตทำงาน นายจ้างไม่สามารถจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานได้หากลักลอบจ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 มีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงานจะมีความผิดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด 22 จังหวัดชายทะเล หรือที่สายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694