รมว.เกษตรฯ สั่งปลัดเกษตรฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่าคอมพิวเตอร์กรมวิชาการเกษตร หลัง กมธ.งบประมาณพบพิรุธ
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงการเช่าคอมพิวเตอร์ของกรมวิชาการเกษตรตามที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ทำหนังสือมาถึง โดยในหนังสือระบุว่า งบประมาณการเช่าคอมพิวเตอร์ปี 2563 มีความผิดปกติ เนื่องจากสูงกว่าราคาจัดซื้อ
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ทันทีที่ได้รับหนังสือจาก น.ส.มนัญญา ได้ลงนามในคำสั่งให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ขณะนี้รอผลสรุปจากปลัดกระทรวง ยืนยันขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ จะไม่ให้มีการทุจริตโครงการใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายจะไม่ให้มีการเสียสตางค์ซื้อขายตำแหน่งแม้แต่บาทเดียว
น.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ได้ปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของกรมวิชาการเกษตรลงร้อยละ 50 นั้น เป็นงบประมาณดำเนินงานไม่เกี่ยวข้องกับงบลงทุนจัดซื้อครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารงบประมาณ โดยปรับแผนให้ความสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ โดยให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทบทวน และจัดลำดับความสำคัญรายละเอียดของงาน โดยเฉพาะงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมวิชาการเกษตร โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานด้านบริการที่มีผลกระทบต่อประชาชนและการส่งออก เช่น การตรวจรับรองแหล่งผลิตพืช (GAP) โรงงานแปรรูป โรงรม (GMP) การตรวจสอบปัจจัยการผลิต ศัตรูพืช และออกใบรับรองบริการวิชาการด้านพืช การผลิตเมล็ดพันธุ์ดีซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลเพื่อจำหน่ายและจ่ายแจกให้แก่เกษตรกร เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด รวมทั้งพืชตระกูลถั่วที่ใช้น้ำน้อย งานบริการทั้งหมดนี้จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนงานอื่นให้พิจารณาปรับลดปริมาณงานตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับ
ทั้งนี้ ในการพิจารณางบประมาณ 2563 เมื่อวันที่ 9 ม.ค. กรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ได้ปรับลดงบประมาณของกรมวิชาการเกษตรที่เสนอไป 1,277 ล้านบาท เหลือ 635 ล้านบาท ซึ่งนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ชี้เเจงถึงการตัดงบประมาณว่า พบข้อผิดปกติกรณีการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งสำนักงบประมาณเเจ้งว่าค่าจัดซื้อเพียง 17,000 บาท แต่กรมวิชาการเกษตรใช้วิธีเช่าเครื่องละ 60,000 บาทต่อปี ระยะเวลา 5 ปี รวมเป็น 300,000 บาทต่อเครื่อง
กรรมาธิการยังระบุว่า เดิมในเอกสารงบประมาณ กรมวิชาการเกษตรชี้เเจงว่า ค่าเช่าคอมพิวเตอร์เครื่องละประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน จึงเชิญอธิบดีกรมวิชาการเกษตรมาซักถามและให้กลับไปทบทวนใหม่ ต่อมากรมวิชาการเกษตรแก้ไขเอกสารแล้วส่งกลับมาเหลือเพียงเครื่องละ 800 บาทต่อเดือน โดยให้เหตุผลว่าเอกสารชุดเเรกที่ส่งมาให้คณะกรรมาธิการนั้นผิดพลาด จึงมีข้อสังเกตว่า ตั้งงบหลอกกรรมาธิการหรือไม่ จนเป็นสาเหตุที่ตัดลดงบประมาณของกรมวิชาการถึง 642 ล้านบาท