ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มชาวบ้านหมู่ 1, 9, 10 และ ม.23 ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กว่า 20 คน ได้เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมและติดตามความคืบหน้ากรณีถูกหน่วยงานของรัฐออกเอกสารสิทธิให้กลุ่มนายทุนทับที่ดินทำกิน โดยมีนายประเวช ช้อนทอง และนายทนงศักดิ์ ปราบงูเหลือม เป็นแกนนำชาวบ้าน ซึ่งมี พ.อ.บันเทิง สุสวัสดิ์พัทร ผู้แทนฝ่ายทหารจากมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) รับเรื่องจากกลุ่มชาวบ้าน พร้อมรับปากที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
นายประเวช ช้อนทอง อยู่บ้านเลขที่ 58/1 ม.10 ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2537 หน่วยงานรัฐมีการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ทับที่ดินทำกินของชาวบ้านที่ทำกินมาก่อนประกาศเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน จำนวน 20 ราย รวมเนื้อที่กว่า 600 ไร่ ซึ่งชาวบ้านได้ร้องคัดค้านมาโดยตลอด แต่หน่วยงานรัฐไม่ดำเนินการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น
กระทั่งปี 2555 มีตัวแทนกลุ่มนายทุนอ้างตัวว่าเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบขององค์การตรวจสอบอำนาจรัฐแห่งชาติ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ในการนำรายชื่อชาวบ้านที่เป็นตัวแทนหรือนอมินีกลุ่มนายทุน คือ บริษัท วังกระทะ (1990) จำกัด และ บริษัท นิมิตธานี จำกัด มาสวมสิทธิในการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ทับที่ดินทำกินชาวบ้านที่ยังมีปัญหากันอยู่ ชาวบ้านได้ร้องคัดค้าน และร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา, ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, ป.ป.ช., สำนักนายกรัฐมนตรี, กองทัพภาคที่ 2 ฯลฯ เพื่อให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มนอมินีนายทุนได้นำรั้วลวดหนามมาปิดกั้นไม่ให้เข้าพื้นที่ได้ ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปทำกินในพื้นที่ของตัวเองได้อีกต่อไปทำให้ครอบครัวไม่มีรายได้เดือดร้อนกันถ้วนหน้า
นายทนงศักดิ์ ปราบงูเหลือม หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อมาในปี 2556 นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาในขณะนั้น ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ กรณีร้องเรียนการจัดที่ดินทำกินในเขตปฏิรูปที่ดิน ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีการประชุมกันแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2558 แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากหน่วยงานรัฐลอยตัว ไม่ยอมพิสูจน์หาข้อเท็จจริงว่าเกษตรกรรายใดทำกินอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาก่อนและควรจะออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้กับใคร แต่กลับให้ชาวบ้านไปฟ้องร้องกันเอง ซึ่งชาวบ้านมีฐานะยากจนไม่มีเงินจ่ายค่าทนายความและค่าเดินทางไปศาล จึงทำให้บางรายท้อแท้ไม่ยอมสู้ต่อบางรายตรอมใจ
ฉะนั้นวันนี้ชาวบ้านจึงรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐโดยเฉพาะรัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน เพราะที่ดินดังกล่าวเป็นผืนดินสุดท้ายที่ชาวบ้านมีไว้ทำกินเพื่อประทังชีวิต หากถูกกลุ่มนายทุนฮุบที่ดินไปทำรีสอร์ตก็สิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีที่อยู่อาศัยและทำกินอีกต่อไป
“จึงอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านให้ได้รับความเป็นธรรม และมีที่ดินทำกินต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน แทนที่จะปล่อยให้กลุ่มนายทุนมาปรับผืนดินไปทำรีสอร์ตจนหมด” นายทนงศักดิ์กล่าว