ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
DITP เผยสินค้าความงามและสุขอนามัย มีโอกาสเจาะตลาดอินเดียได้เพิ่มขึ้น
27 ม.ค. 2563

 

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้ช่องส่งออกสินค้าเพื่อความงามและสุขอนามัยเจาะตลาดอินเดีย รองรับการขยายตัวของกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมสั่งทูตพาณิชย์ช่วยผู้ประกอบการไทยเปิดตลาดทุกช่องทาง ด้านทูตพาณิชย์มุมไบรับลูกลุยทันที เผยแนวทางทำตลาด เพิ่มเจาะกลุ่มวัยรุ่น ผู้ชาย โปรโมตสินค้าผ่านนักท่องเที่ยว ร่วมงานแฟร์เปิดตัวสินค้า ร่วมมือลงทุน และขายผ่านออนไลน์   

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับรายงานแนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขอนามัยในตลาดอินเดีย จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครมุมไบ อินเดีย โดยพบว่าเป็นกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสในการขยายตลาดในอินเดียได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดที่เพิ่มขึ้นตามวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงอินเดียที่ออกมาทำงานนอกบ้านมากขึ้น กำลังซื้อของคนชั้นกลางที่มีสัดส่วนการใช้จ่ายเพื่อความงามสูงขึ้น และยังมีการส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์ การขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกเข้าไปยังเมืองรองต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้และหาซื้อสินค้าได้ง่าย จึงทำให้ตลาดขยายตัว โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6.7% ต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2025 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17.06% ต่อไป

ทั้งนี้ มีข้อมูลจากสมาคมหอการค้าแห่งอินเดีย ประเมินว่า สินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง ได้แก่ น้ำยาล้างหน้าที่ช่วยป้องกัน รักษาสิว ครีมลดริ้วรอย จุดด่างดำ ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย ผลิตภัณฑ์ดูแลสภาพผิว เป็นต้น ส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เป็นที่นิยม ต้องมีสรรพคุณด้านความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย เพิ่มความสว่างใส ป้องกัน UV และผลกระทบจากมลพิษ ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ต้องมีสรรพคุณนุ่มลื่น เงางาม ลดการหลุดร่วง และหวี ต้องลดการชี้ฟู ขณะที่ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัยภายใน เช่น น้ำยาป้วนปาก ผ้าอนามัย น้ำยาทำความสะอาดสำหรับผู้หญิง มีความต้องการเพิ่มขึ้น และเน้นสินค้าวัตถุดิบจากธรรมชาติ

สำหรับการส่งออกเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิวไปอินเดีย ในช่วง 11 เดือนปี 2562 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 110.20 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 70.81% แบ่งเป็นเครื่องสำอาง เครื่องหอม และสบู่ 98.14 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 89% ของมูลค่าส่งออกรวม เพิ่มขึ้น 75.38% และวัตถุดิบขั้นกลางเพื่อใช้สำหรับผลิตเครื่องสำอาง 12.07 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 40.94% โดยกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง มีการเติบโตสูง สินค้าที่อินเดียนำเข้าจากไทยมากสุด คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือบำรุงผิว หัวน้ำหอมและน้ำหอม ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ดับกลิ่นตัวและที่โกนหนวด สบู่ และผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปาก เป็นต้น

 “จากแนวโน้มการขยายตัวของสินค้าความงามและสุขอนามัยในตลาดอินเดียดังกล่าว กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ในอินเดีย เร่งหาทางขยายตลาดเพื่อผลักดันสินค้าของไทยเข้าสู่ตลาดให้ได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งผ่านช่องทางการส่งออกปกติ การประสานติดต่อกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก รวมถึงผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ และให้เน้นหาทางเจาะขยายเข้าสู่ตลาดในเมืองรองของอินเดียให้ได้เพิ่มขึ้นด้วยนายสมเด็จกล่าว

น.ส.สุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครมุมไบ กล่าวว่า สำนักงานฯ ได้ทำการศึกษาตลาด พบว่า กลุ่มที่มีโอกาสเจาะได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากกลุ่มสตรี คนชั้นกลาง ก็คือ กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มผู้ชาย ผู้สูงอายุ และผลิตภัณฑ์ฮาลาลสำหรับชาวมุสลิม โดยการเข้าสู่ตลาดระยะแรกอาจต้องออกผลิตภัณฑ์ขนาดทดลอง ขนาดเล็ก เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ และต้องใช้วิธีลดราคา มีของแถม เพื่อสร้างแรงจูงใจ และราคาควรจะแข่งขันได้ เพราะผู้บริโภคอินเดียมีความอ่อนไหวด้านราคาสูง

ส่วนช่องทางการเข้าสู่ตลาด ในระยะสั้น สามารถทำการส่งเสริมการขายสินค้าเพื่อความงามและสุขอนามัยผ่านทางนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยจัดหาพื้นที่ทำเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้า และมีบริการบำรุงรักษาผิวเพื่อให้ทดลอง ส่วนผู้ที่จะทำการส่งออก ต้องติดต่อผู้นำเข้า พัฒนาสินค้าตามที่ตลาดต้องการ ผลิตให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ และควรไปร่วมงานแสดงสินค้าในอินเดียที่เกี่ยวกับความงาม และช่องทางออนไลน์ เบื้องต้นควรจะเสนอขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มที่ขายสินค้าทั่วไปอย่าง Flipkart และ Amazon ที่สามารถเข้าถึงตลาดระดับโลกได้พร้อมกัน แต่ถ้าต้องการเข้าสู่แพลตฟอร์มของอินเดียที่คนท้องถิ่นคุ้นเคย เช่น Nykaa , NewU และ Purplle ที่เน้นงานสินค้าเพื่อความงามและสุขอนามัย ต้องเข้าไปจดทะเบียนธุรกิจในอินเดีย ก่อนทำบัตรประจำตัว เปิดบัญชีธนาคาร และนำเลขบัญชีไปใช้ในการจดทะเบียนธุรกิจเพื่อให้สามารถขายสินค้าได้

นอกจากนี้ อาจจะใช้วิธีการเข้าไปร่วมทุนผลิตสินค้าในอินเดีย โดยผสมผสานวัตถุดิบที่เป็นจุดเด่นของไทยและอินเดียเข้าด้วยกัน เพื่อทำตลาด รวมถึงเข้าไปลงทุนทำธุรกิจสปาและเสริมความงาม โดยอาจเริ่มธุรกิจในเขตเมืองรองของอินเดียที่มีคนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติมาก หรือเข้าไปเป็นพันธมิตรกับโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวของอินเดีย เพื่อสร้างการรับรู้

 ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครมุมไบ โทร 001-91-222-2830242-3 อีเมล์ thaitrademumbai@gmail.com หรือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...