อังกอร์ เอ็นเทอร์ไพรส์ รัฐวิสาหกิจกัมพูชา ออกแถลงการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า อุทยานโบราณคดีอังกอร์หรือ “นครวัด” อันเลื่องชื่อของกัมพูชา ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.2 ล้านคนในปี 2019 ลดลงร้อยละ 14.8 เมื่อเทียบปีต่อปี

แถลงการณ์ระบุว่า นครวัดทำรายได้รวม 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.9 พันล้านบาท) จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมในปี 2019 ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยจีน สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางเยือนนครวัด

สมเด็จอัครเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนนครวัดในจังหวัดเสียมราฐทางตอนเหนือไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวล เนื่องจากรัฐบาลหันมาผลักดันตัวเลือกการท่องเที่ยวภายในประเทศที่หลากหลายมากขึ้น

“จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงเป็นเพราะตอนนี้เรามีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ให้นักท่องเที่ยวเลือกสรรอีกจำนวนมาก” ฮุนเซน กล่าว “แม้ว่านักท่องเที่ยวในเสียมราฐจะลดลงแต่ไม่ได้หมายความว่านักท่องเที่ยวในกัมพูชาจะลดลงตามไปด้วย”

รายงานล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนกัมพูชาเกือบ 5.3 ล้านคนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2019 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ อุทยานโบราณคดีอังกอร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี 1992 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศ โดยราคาบัตรเข้าชม 1 วันอยู่ที่ 37 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,110 บาท) ขณะที่บัตรเข้าชม 3 วันอยู่ที่ 62 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,860 บาท) และบัตรเข้าชม 1 สัปดาห์อยู่ที่ 72 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,160 บาท)