นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธีมอบพันธุ์กล้าไม้ ภายใต้โครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดมลพิษจากฝุ่นละออง 101,010 ต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ทั่วจังหวัดนนทบุรี แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. กล่าวว่า จากปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีแนวทางเพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติ ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในภาพรวมของประเทศและพื้นที่วิกฤติโดยบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน ทุกภาคส่วนด้วย 3 มาตรการ คือ
มาตรการที่ 1 เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ (การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและในช่วงวิกฤต ช่วงเดือนมกราคม-เมษายน) ใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Single Command ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดมีอำนาจในการสั่งการแก้ปัญหาให้ทันท่วงที
มาตรการที่ 2 ป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง ทั้งจากยานพาหนะ การเผาในที่โล่ง การก่อสร้างและผังเมือง โรงงานอุตสาหกรรม และครัวเรือน
และ มาตรการที่ 3 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ การพัฒนาระบบคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น เพิ่มประสิทธิภาพและเทคโนโลยีการตรวจวัด พัฒนาระบบฐานข้อมูลและผลกระทบต่อสุขภาพ ตลอดจนเพิ่มเครือข่ายติดตามตรวจสอบให้ครอบคลุม 77 จังหวัด ภายในปี 2567 เป็นต้น
สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว ยังคงเป็นภารกิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย เพื่อใช้เป็นปอดของเมือง ให้ต้นไม้ดักจับฝุ่นและเป็นตัวกรองคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่กระทรวงฯ เร่งดำเนินการ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ 55% ของพื้นที่ประเทศ ซึ่งพี่น้องประชาชนทุกคนสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้จังหวัดนนทบุรีเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ในช่วงที่ประเทศไทยมีสภาพความกดอากาศสูงหรือมีอากาศเย็น โดยเฉพาะในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จังหวัดนนทบุรีมีค่าเฉลี่ยปริมาณฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประมาณ 8 วัน ดังนั้น ความร่วมมือจากประชาชนทุกคนจึงเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยกันป้องกันและลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศและคืนสุขภาพที่ดีให้ประชาชน โดยตั้งเป้าหมายปลูกต้นไม้ให้ได้ 101,010 ต้น ภายในเดือนธันวาคม 2563 นี้ โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้จากกรมป่าไม้