นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องมาตรการป้องกันและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ระบุว่าตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ ๑๔ ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ จึงกำหนดมาตรการป้องกันและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) สำหรับส่วนราชการและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดังนี้
๑. ให้เจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพส่วนบุคคลด้วยการหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยที่สะอาด เมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ผู้ที่มีอาการไอ จาม ต้องใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
๒. เพิ่มการดูแลอนามัยด้านสถานที่ของหน่วยงาน เช่น การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นทางเดินเข้า-ออกอาคาร ลิฟต์ ห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ตรวจเช็คทำความสะอาดจุดสัมผัสสาธารณะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได ที่จับหรือลูกบิดประตู/อาคาร จัดให้มีบริการเจลล้างมือโดยเฉพาะจุดที่มีการเข้า-ออกอาคาร หน้าลิฟต์ ห้องประชุม และศูนย์อาหาร เพิ่มความถี่ในการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศเป็นกรณีพิเศษ ปิดประกาศประชาสัมพันธ์ สร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการแพร่ระบาดและการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันเชื้อโรค เป็นต้น
๓. ให้เจ้าหน้าที่งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังหรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษมาเก๊า แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ญี่ปุ่น มาเลเซีย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐสิงค์โปร์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน รวมทั้งประเทศ ที่อาจมีความเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศในอนาคต ระหว่างวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๓ หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
๔. เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้เดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ตาม ๓. ไปแล้วก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ขอให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณาทบทวนความจำเป็นของการเดินทางโดยการงดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปให้พ้นระยะเวลา ที่กำหนดไว้ใน ๓.
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง และไม่สามารถงดหรือเลื่อนการเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ตาม ๓ ได้ให้ระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยหรือติดเชื้อ และเฝ้าระวังต่อเนื่องจนครบ ๑๔ วัน เมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว
๕. เจ้าหน้าที่ที่เดินทางกลับจากประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ตาม ๓. ให้รายงานตัวต่อหัวหน้าส่วนราชการระดับกองหรือเทียบเท่าและในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตลอดเวลา เฝ้าระวังตนเองเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ คนหนาแน่น รักษาร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีไข้ เจ็บคอ หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก หรืออาการอื่นๆ อันเป็นข้อบ่งชี้ของการติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ต้องเข้ารับการตรวจรักษาพยาบาล ณ สถานพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนดโดยทันที
๖. ให้เจ้าหน้าที่ติดตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศหรือรัฐบาล ในกรณีที่มีการประกาศคำแนะนำการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการกักตัวผู้เดินทางออกจากประเทศไทย และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดต่อไป