เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 แถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F โดยมี เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง และ ดร.ธาริศร์ อิสสระยั่งยืน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ร่วมแถลงข่าว เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ณ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยมีรายละเอียดดังนี้
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 มีกลุ่มบริษัทที่สนใจเข้ายื่นซองข้อเสนอ จำนวน 2 ราย ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้า NCP (บริษัท นทลิน จำกัด บริษัท แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด บริษัท พริมา มารีน จำกัด บริษัท พีเอชเอส ออแกนิค จำกัด และ China Railway Construction Corporation Limited) และกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC (บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และ China Harbour Engineering Commpany Limited) โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ผ่านเกณฑ์การพิจารณา คุณสมบัติเบื้องต้นและข้อเสนอทางเทคนิค ตามที่กำหนดในเอกสารคัดเลือกเอกชนของโครงการฯ หรือ Request for Proposal (RFP) และกลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ เนื่องจากเอกสารในส่วนสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ไม่ครบถ้วนและไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเอกสารคัดเลือกเอกชนของโครงการฯ ต่อมากลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ซึ่งศาลฯ ได้มีคำพิพากษาว่าคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกฯ เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ยื่นคำอุทธรณ์คำพิพากษา พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอให้ระงับคำสั่งเกี่ยวกับวิธีคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ในระหว่างนั้นทำให้การดำเนินการต้องหยุดชะงักลง
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้อง กรณีกลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ฟ้องเพิกถอนคำสั่งทางปกครองของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่มีมติให้กลุ่มกิจการร่วมค้า NCP เป็นผู้ไม่ผ่านการประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 นั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย สาเหตุที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ เนื่องจากกลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ไม่ลงนามในแบบฟอร์มสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ ตามที่กำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชนของโครงการฯ จึงถือเป็นการผิดสาระสำคัญ ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกับผู้ยื่นรายอื่น และกลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลการไม่ลงนามในช่องที่กำหนด ถือเป็นความบกพร่องของกลุ่มกิจการร่วมค้า NCP
ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะดำเนินการเจรจาผลตอบแทนและร่างสัญญากับกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ให้เป็นไปตามเอกสารการคัดเลือกเอกชนของโครงการฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จและลงนามสัญญาภายในเดือนเมษายน 2563