ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมว่า ตลอดช่วงเช้าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.)
กระทั่งเวลา 11.00 น. จึงเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยไม่มีการแจ้งภารกิจใดๆ และวาระทำเนียบรัฐบาลไม่มีขึ้นภารกิจของนายกฯ ตลอดวัน อย่างไรก็ตาม มีกระแสคาดการณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจเกิดความไม่สบายใจ
หลังมีข่าวคณบดีแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เชิญมาหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 มี.ค. เพื่อขอรับทราบแนวทางการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เสนอข้อมูลและเหตุผลถึงความจำเป็นในการล็อกดาวน์ ให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เพราะถ้ายังทำแบบเดิมอาจจะมีการเสียชีวิตถึง 7,039 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสัปดาห์หน้าพล.อ.ประยุทธ์ จะเชิญภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า มาพูดคุยที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับฟังผลกระทบในมิติต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง ซึ่งพบว่ามีตัวเลขค่อนข้างสูงที่จะได้ความเดือดร้อน จากมาตรการของรัฐบาลในการรับมือการแพร่ระบาดของโรค
พร้อมรับฟังข้อเรียกร้องจากภาคเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ รวมถึงผลกระทบ หากรัฐบาลจำเป็นต้องตัดสินใจประกาศการแพ่ระบาดระยะ 3 หรือหากมีความจำเป็นต้องปิดประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลจะเพิ่มมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยเฉพาะความมั่นใจระบบสาธารณสุขของไทย ทั้งการป้องกันการระบาด การกักกัน การรักษาผู้ติดเชื้อ
โดยเชิญ นพ.ยง ภู่วรวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มาร่วมแถลงข่าวที่ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านสาธารณสุข
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าอาจจะเริ่มมีการปรับรูปแบบการทำงานของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงาน ในทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระทรวงสาธารณสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ข้อมูลที่คณะแพทย์เสนอต่อนายกฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ถึงความจำเป็นในการล็อกดาวน์ประชาชน ให้ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" กับภาพอนาคต 30 วัน หากใช้มาตรการล็อกดาวน์ให้ประชาชนอยู่ในบ้าน
• ตัวเลขคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ จะอยู่แค่ 24,269 คน
• นอนโรงพยาบาล 3,640 คน
• ไอซียู 1,213 คน
• เสียชีวิต 485 คน
ถ้ายังทำแบบเดิม ไม่หยุดการเคลื่อนย้ายของประชากร (ภายใน 30 วัน)
• คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ จะสูงถึง 351,948 คน
• นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 52,792 คน
• อยู่ไอซียู 17,597 คน
• เสียชีวิต 7,039 คน